ไทย-มาเลย์-สิงคโปร์เสนอตัวจัดโอลิมปิก

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานประชุมสมัชชาใหญ่สามัญ ประจำปี 2553 โดย พล.อ.ยุทธศักดิ์ แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตนได้มีโอกาสหารือกับนักธุรกิจ และคีย์แมนในวงการกีฬาของมาเลเซีย ล้วนมีแนวคิดร่วมกันถึงเรื่องการร่วมมือกันเสนอตัวจัดการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ฤดูร้อน ระหว่าง ไทย, มาเลเซีย และสิงคโปร์ เนื่องจากกลุ่มประเทศเหล่านี้มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมทั้งมีเขตแดนทางเชื่อมต่อกัน หากรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ เห็นพ้องต้องกัน น่าจะได้รับความสนใจจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)

นอกจากนี้ ไอโอซี ยังแสดงความเป็นห่วง เรื่องของการใช้สารกระตุ้นในนักกีฬามากขึ้น รวมทั้งกำชับเรื่องของการตรวจสอบอายุของนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันให้ดี ดร.ณัฐ กล่าวต่อว่า ในการประชุมไอโอซีครั้งล่าสุด ไอโอซี มีโอกาสจะตัดชนิดกีฬาที่บรรจุในโอลิมปิกเกมส์ออก 3 กีฬาในปี 2013 เพื่อที่โอลิมปิก เกมส์ 2020 จะเหลือกีฬาแกนหลักจาก 28 เป็น 25 ชนิดกีฬา ส่วนอีก 3 กีฬานั้น ไอโอซีจะเป็นผู้คัดเลือก ซึ่งต้องยอมรับว่า 3 กีฬา ที่จะถูกตัดออกไปนั้น เป็นกีฬาที่มีปัญหาเรื่องการตัดสินอย่าง ยิมนาสติก, เทควันโด รวมถึง มวยปล้ำ

พร้อมกันนี้ ไอโอซี เมมเบอร์ ยังเสนอแนวคิดเรื่องการพัฒนาศูนย์ฝึกกีฬา เพื่อแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว เนื่องจากเล็งเห็นว่า กีฬาสปีดสเกต, ฟิกเกอร์สเกต และเคอร์ลิ่ง เป็นกีฬาที่เหมาะกับคนเอเชีย และโอลิมปิกฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์ นักกีฬาจีนและเกาหลี ต่างประสบความสำเร็จมาก โดยสหพันธ์กีฬาต่างๆ พร้อมให้ความสนับสนุนอยู่แล้ว หากไทยจะพัฒนานักกีฬา สำหรับงบดุลของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย สิ้นสุด 31 ธ.ค.52 มีรายได้น้อยว่า รายจ่าย 4.01 ล้านบาท และมีรายได้สะสม รวม 132.8 ล้านบาท