เก็บตกหงส์แดง...?

เก็บตกหงส์แดง...?

เก็บตกหงส์แดง...?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ๊ากันแบบไม่มีสกอร์ ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์เจอกับ แบล็คเบิร์น ในถ้วยเอฟเอ คัพ นั่นหมายถึงต้องเพิ่มภาระ เพิ่มเกมให้เป็นที่หนักหนาระอาใจ ในขณะเดียวกันลดความเป็นไปได้กับเป้าหมายคว้าแชมป์

ค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับแฟนหงส์แดง ทีมไม่หวือหวา โอกาสส่องประตูแบบจะแจ้งน้อยลงไปทันตาเห็น ไร้ความตื่นเต้นเหมือนเกมที่ผ่านๆมา อาจจะเพราะล้าหรืออะไรก็แล้วแต่ ทว่าถ้าต้องการประสบความสำเร็จต้องเด็ดขาดกว่านี้

ง่ายกลายเป็นยาก...

เป็นเรื่องเข้าใจได้ในการโรเตชั่นนักเตะบางตำแหน่ง ทุกอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องคิดและจัดการแบบละเอียดละออ นี่คือความยากซึ่งแต่ละทีมรู้ปัญหานี้อยู่แล้ว เหตุผลที่ทีมใหญ่ๆทั้งหลายต้องสร้างขุมกำลังให้ใหญ่มากพอกับการรับมือเกมที่มากมายในแต่ละฤดูกาลก็เพราะแบบนี้นี่แหละ

นอกจากนี้เรื่องราวที่ยากขึ้นกว่าเดิมก็คือการมีเป้าหมายที่หลากหลาย ต้องลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ให้ได้ ต้องไปให้ถึงแชมป์เอฟเอ คัพ เพราะฉะนั้นไม่มีทางใช้นักเตะชุดเดิมหรือชุดที่ดีที่สุดได้ตลอดเวลา

ร็อดเจอร์ส จัดทีมเกือบจะดีที่สุดของตัวเองเพราะรู้ดีว่า ผีแดงเจอกับอาร์เซนอล ต้องหายไปหนึ่งทีม โอกาสของตัวเองจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อีกมุมหนึ่งคิดว่าในเมื่อโอกาสเปิดขนาดนี้ใส่เต็มที่ไม่ต้องพักบางคนซะเลย

พูดกันได้เสมอในสถานการณ์หลังเกมแบบนี้ ทว่าความเป็นจริงก็คือ ลิเวอร์พูลเจองานที่ยากมากขึ้นแน่นอนกับการเล่นนัดรีเพลย์

จะเป็นแชมป์ต้องสู้ยิบตา...

เป้าหมายเป็นแชมป์ไม่มีทางสำเร็จได้หากไม่ทุ่มลงไปให้สุดๆ ครึ่งๆกลางๆคืออันตราย เกมของลิเวอร์พูลแม้จะครองบอลเป็นว่าเล่น แต่โอกาสจะแจ้งไม่ค่อยจะมีมากนัก

เกมช้าลงไปกว่าเดิมที่เคยเล่น ดูเนือยๆลงไป ในขณะเดียวกันแบล็คเบิร์นเตรียมตัวมาดี วางแผนมาค่อนข้างละเอียดเพราะคาดหวังเช่นเดียวกันว่าตัวเองจะไปเวมบลีย์ให้ได้

การคาดหวังถึงสิ่งที่จะได้มา ต้องแลกกับความทุ่มเทและต่อสู้อย่างหนัก ข้อผิดพลาดของแต่ละทีมที่เกิดขึ้นจะแก้ไขกันอย่างไรในนัดรีเพลย์ต้องตามดูกันอีกครั้งครับ

ยังไม่ดีพอ...

สถิติชนะ 1-0 ของหงส์แดงในฤดูกาลนี้ถือว่าน้อยมาก นั่นถือว่าแต่ละเกมสามารถสร้างสรรค์โอกาสและผลิตสกอร์ได้มากกว่า 1 ประตู ถ้าคิดว่านี่คือมาตรฐานของทีม เจอกับแบล็คเบิร์นคือต่ำกว่ามาตรฐานทันที

เหตุผลที่พอจะยิบยกมาลบล้างได้บ้างก็คือแบล็คเบิร์นอยู่กลางตาราง ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อหนีตกชั้น และไม่มีโอกาสที่จะเหน็ดเหนื่อยกับการลุ้นเลื่อนชั้น เพราะฉะนั้นเอฟเอ คัพ คือเป้าหมายใหญ่ที่สุดเพียงเป้าหมายเดียว

เพราะฉะนั้นลิเวอร์พูลต้องดีกว่านี้อย่างชัดเจนในนัดรีเพลย์ไม่อย่างนั้นมีโอกาสโดนสอยร่วงคาอีวู้ด ปาร์ค แน่นอน

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง...

ระบบ 3-4-2-1 ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ใช้ได้ผลดีมากๆช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทว่าบางช่วงเวลาเป็นประเด็นเช่นกันเมื่อกุนซือหงส์แดงเสี่ยงที่จะไม่ทำในสิ่งที่ดีที่สุด ลาซาร์ มาร์โควิช และ เอ็มเร่ ชาน ปรับตัวกับสถานการณ์ได้ดีนั่นคือสิ่งที่เห็นกัน

ทว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับบทบาทวิงแบ็คไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดแน่นอนแม้ว่าเคยใช้บริการแบบนี้มาบ้างแล้ว การถอยลึกเพื่อเล่นเกมรับ การอยู่ห่างจากประตูคู่แข่งและ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ประสิทธิภาพในเกมรุกคือสิ่งที่เสียไป

จริงอยู่ที่ลิเวอร์พูลมีตัวเลือกในเกมรุกหลายคนโดยเฉพาะตัวริมเส้น แต่สำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ประโยชน์สูงสุดคือเกมรุกเท่านั้น บทบาทของวิงแบ็คที่จะต้องรับผิดชอบเกมรับด้วยไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่

คูตินโญ่เงียบ หงส์แดงเงียบ...

จริงๆแล้วไม่ถึงกับขนาดนั้น เพราะต้องอาศัยองค์ประกอบโดยรวมของทีม ทว่าเท่าที่เห็นมาความเป็นไปได้เกิดขึ้นทันที เกมที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ไม่หวือหวาเล่นค่อนข้างเงียบ ฟอร์มของหงส์แดงจะแกว่งและซบเซาลงไป

แข้งแซมบ้าคนนี้คือตัวปลดล็อกของทีมในช่วงเวลาที่เจาะไม่เข้า การยิงไกลนอกกรอบเขตโทษได้ผลมาหลายครั้ง เมื่อแบล็คเบิร์นทำการบ้านมาดีพยายามไล่ตามปิดพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ อาวุธของหงส์แดงลดลงไปทันที

เมื่อเจาะไม่เข้า หน้ากรอบเขตโทษโดนปิดเส้นทาง คูตินโญ่ เล่นยากขึ้น เกมของหงส์แดงหงอยลงไป ไม่ชัดเจนในเรื่องของการเข้าทำแบบจะแจ้ง

เกมในครึ่งหลังที่แอนฟิลด์ คูตินโญ่ ใส่ความพยายามลงไปมากขึ้น แต่โอกาสในการเจาะเข้าช่องหรือโอกาสส่องหน้ากรอบเขตโทษก็เกิดขึ้นไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น

แน่นอนครับทั้งหมดนั้นต้องให้เครดิตนักเตะแบล็คเบิร์นที่เล่นได้ตามแผนอย่างมีวินัย ภาพรวมๆของหงส์แดงที่ตกลงไปประจวบเหมาะกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพของนักเตะแบล็คเบิร์น นัดรีเพลย์คือสิ่งที่สมควรด้วยประการทั้งปวง

มาริโอ บาโลเตลลี่...

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อาจจะเคยส่งลงไปแล้วได้ผล ทว่าอาจจะเป็นหนึ่งในร้อย แฟนหงส์แดงอาจจะมีแนวคิดที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ในกรณีดังกล่าวคงรู้สึกได้ว่าถ้ากุนซือลิเวอร์พูลตัดสินใจส่ง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ลงไปวิ่งเป็นวิงแบ็กแล้วดัน สเตอร์ลิ่ง เล่นเกมรุกเต็มตัวในช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะชัดเจนในเรื่องของการเข้าทำประตู

ร็อดเจอร์ส อาจจะเห็นว่าพื้นที่ด้านหน้าให้ สเตอร์ลิ่ง ได้เล่นนั้นมีน้อยก็ได้ แต่อดเสียดายที่สุดท้ายแล้ว ร็อดเจอร์ส เลือกแบบนั้น...

ดามัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook