SCOOP : "ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด" บทพิสูจน์...บนเส้นทางแห่งฝัน

ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อสโมสรอย่างเป็นทางการ มาใช้ชื่อ แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ต่อมาถึงปัจจุบันเป็น "ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด" สโมสรฟุตบอลที่โลดแล่นบนลีกสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง ปีแล้ว...ปีเล่า ที่พวกเขาได้แค่คำว่า "เฉียด" กับคำว่า "แชมป์" ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ว่า...

"เมื่อไหร่จะถึงเวลาของพวกเขา ซะที"???

ทุกครั้งหลังจบซีซั่นด้วยคำว่า "มือเปล่า" มิอาจทำให้บอสใหญ่ "ขจร เจียรวนนท์" ประธานสโมสร หมดหนทาง และหมดหวัง กับความฝันที่เขาและทีมอยากถวิลหาที่สุดกับตำแหน่งแชมป์

แชมป์ลีก, แชมป์บอลถ้วย....ใครๆ ก็ฝันมาครอบครองทั้งนั้น ยิ่งในบทบาทของคนทำทีมฟุตบอล มันยิ่งอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจผู้ชายอย่างเขา

ที่ผ่านมาทีมแข้งเทพ ต้านแรงเสียดทานในบางจุดไม่ไหว บางปีออกสตาร์ทดี แต่สุดท้ายยืนระยะไม่ไหว ทั้งประสบการณ์และปัจจัยอื่นๆประกอบ ทำให้จบซีซั่นด้วยการยังไร้แชมป์มาประดับสโมสร

มาปีนี้ ในศึกไทยลีก หลายคนที่ได้ชมผลงานของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ "ธชตวัน ศรีปาน" ต้องบอกว่า นี่คือช่วงเวลาที่สุกงอม

นักเตะมากประสบการณ์ ไม่เสริมทัพที่เน้นปริมาณอีกต่อไป เน้นไปที่ตัวหลักเป็นโครงเดิม เสริมแต่งด้วยผู้เล่นที่อยากได้จริงๆเท่านั้น ซึ่งโค้ชแบนพยายามมุ่งไปที่ความเป็นจริงในปัจจุบัน ที่จะพาทีมวิ่งเข้าหาความสำเร็จ ด้วยสิ่งที่เขามีในมือตอนนี้
"ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์" คือความชัดเจนว่า การเลือกคว้านักเตะมาเสริมทัพ ในส่วนที่ทีมมีช่องโหว่ มันคือการตอบโจทย์ของตลาดซื้อขายที่ยอดเยี่ยม และชัดแจ้งเป็นที่สุด

เมื่อมาประกอบกับเหล่านักเตะเก่า ที่เล่นกันมาหลายต่อหลายปี มันคือการสอดประสานผลงานจนทำให้เวลานี้ ผ่าน 1 ใน 3 ของการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1  

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คือทีมนำจ่าฝูง!!!

ผลงานชนะ 8 เสมอ 2 และแพ้ไป 2 เกม จาก 12 นัดแรกในลีก คือสิ่งที่ยืนยันว่าแนวทางของสโมสรที่หลายคนเฝ้ามอง ด้วยคุณภาพนักเตะระดับนี้ พวกเขาจะยุติการจบซีซั่นด้วยคำว่า "มือเปล่า" ได้เสียทีหรือไม่?
เวลานี้ 11 ตัวแรกของ โค้ชแบน คือความลงตัวแบบขั้นสุด โดยเฉพาะแนวรุกเวลานี้อย่าง เฮเบอร์ตี้ เฟอร์นันเดส และ วันเดอร์ หลุยส์ ต่างระเบิดผลงานด้วยการเล่นเพื่อทีมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นก็มาจากการวางหมากของกุนซือ และต้องยอมรับว่าพวกเขามาถูกทาง 

นักเตะอย่าง ปกเกล้า อนันต์, วิษรุษ อิ่มอุระ ก็ยกระดับการเล่นในแผงมิดฟิลด์ได้มากโข ขณะที่การมาของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทำให้กองกลางของบียูนี่แน่นปึ๊ก และทั้งสามคนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังมั่นใจสุดๆ ซะด้วย  
 
นอกไปจากนั้น บนม้านั่งสำรอง ยังมีนักเตะระดับคุณภาพ ที่พร้อมลงมาเปลี่ยนเกมได้อย่างดี ทั้ง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร หรือ แม้แต่ กองหน้าอย่าง ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม และ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ก็พร้อมลงมาช่วยทีม เมื่อทีมต้องการ

แนวรับตอนนี้ มานูเอล ทอม เบียห์ และ เอเวอร์ตัน รวมไปถึงการเติมเกมแบบสะเด่าทรวงของ ทริสตอง โด และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ยิ่งทำให้ชั่วโมงนี้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คือทีมจ่าฝูงที่ทีมอื่นต้องหวั่นเกรง ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่ใช่แค่การได้สามแต้ม แต่เป็นสามแต้มด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนามด้วย
 "โค้ชแบน" ได้เล่าแบบเปิดใจจากการได้เจอกันโดยบังเอิญที่ร้านกาแฟว่า "ตอนนี้ผลงานของทีมดี ทุกอย่างก็ดีตาม ทั้งเรื่องของสปิริตในทีม ทั้งเรื่องของฟอร์มในสนามของแต่ละคนก็เป็นสิ่งสำคัญในตอนนี้"

"ผมมองว่า ฟุตบอลแบบผม มันคือความเข้าใจของทุกคน พี่โชดดีมากๆ ที่ท่านประธานอย่าง คุณขจร ให้โอกาสทำทีมแบบเต็มที่ ไม่มีการมาล้วงลูก ให้กำลังใจทีมตลอด ไม่เคยว่านักเตะหรือใครเลย ในยามที่ทีมผิดหวังกับผลการแข่งขัน"

"นักเตะในตอนนี้ กำลังเล่นฟุตบอลในแบบที่พวกเขาถนัด และเข้าใจในทุกบริบทของตำแหน่งการเล่น"

"เรื่องของการไปถึงแชมป์ พี่มองว่าใครละจะไม่คิดเลย คนเข้ามาทำทีม และทีมระดับนี้ ผลงานแบบนี้จะไม่หวังเลยมันก็คงไม่ใช่"

"แต่เราและสตาร์ฟ กำลังพยายามลบคำปรามาส และพยายามนำพาทีมไปให้ถึงเป้าหมาย เพราะยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล และพี่เชื่อว่าเราจะพัฒนาทีมให้ดีกว่านี้ ทั้งในลีกและบอลถ้วย"

"เรามีเหล่าสปอนเซอร์ที่ดี มีผู้บริหารที่รักฟุตบอล และให้โอกาสผมทำตรงนี้ ผมว่าบียูกำลังอยู่บนเส้นทางที่เราคู่ควรแล้ว ส่วนเรื่องจะไปถึงแชมป์หรือไม่ ค่อยมาลุ้นและดูกันอีกที"
สีหน้าแววตาของชายผู้เป็นกุนซือของทีม บ่งบอกทุกสิ่งอย่างในการเป็นผู้นำพาทีมนี้ไปสู่ความฝัน

มันไม่มีใครบอกได้หรอกว่า บั้นปลายของฟุตบอล "ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด" ทีมนี้จะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่

แต่ด้วยฟอร์มการเล่น และความเล่นเป็นทีม ในแบบฉบับนักสู้เฉกเช่นนี้ ใครที่เป็นแฟนของทีมแข้งเทพ กำลังสนุกในเกมของพวกเขาบนพื้นสนาม

นี่อาจจะถึงเวลาแล้วล่ะ ที่พวกเขาได้เฮดังๆ กับตำแหน่งแชมป์ เมื่อจบซีซั่นกันเสียที

ตามติด และติดตามให้ดีครับ "ทรู แบงค็อก กับฝันที่พวกเขาเฝ้ารอ" 

เรื่องโดย : บ.ส้มซิ่ง