ผมก็แค่ชาวนา : กว่าจะเป็น วาสิลี คามอตสกี ราชาแห่งวงการนักตบหน้าของโลก

ผมก็แค่ชาวนา : กว่าจะเป็น วาสิลี คามอตสกี ราชาแห่งวงการนักตบหน้าของโลก

ผมก็แค่ชาวนา : กว่าจะเป็น วาสิลี คามอตสกี ราชาแห่งวงการนักตบหน้าของโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตบหน้า (Slapping) คือ กีฬาสุดแหวกที่นำคน 2 คน มาผลัดกันตบหน้า จนกว่าอีกฝ่ายจะสลบ หรือ ยอมแพ้ แม้จะฟังดูเพี้ยน แต่การแข่งตบหน้าได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศรัสเซีย ถึงกับมีการเดินสายจัดแข่งทั่วประเทศ

ในโลกแห่งกีฬาตบหน้า ไม่มีใครดังเกินไปกว่า "วาสิลี คามอตสกี" ชายหนุ่มร่างยักษ์ที่สร้างสถิติตบหน้าคู่แข่งจนสลบ 2 คนรวดในวันเดียว คลิปวิดีโอของเขามีผู้เข้าชมมากกว่า 4 ล้านครั้ง ภายในเวลาไม่กี่เดือน

ทั้งที่ปูมหลังชีวิตเขาเป็นเพียงชาวนาที่ใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่เคยรู้จักการแข่งตบหน้า แต่วันหนึ่งเขากลายมาเป็นราชานักตบ จากฝ่ามือที่มีพละกำลังเหนือมนุษย์ได้อย่างไร ?

ฝึกพลังบนทุ่งหญ้า

ประเทศรัสเซีย ดินแดนอันหนาวเหน็บทางตอนเหนือของมหาทวีปยูเรเชีย มีหลายพื้นที่ในประเทศแห่งนี้ ที่ภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขา, ทุ่งหญ้า และป่าไม้ ผู้คนในละแวกนี้มักประกอบอาชีพเกษตรกรรม

วาสิลี คามอตสกี ชาวนาวัย 29 ปี คือชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความทุรกันดาร ในเขตอิลานสกี เมืองขนาดเล็กในจังหวัดครัสโนยาสค์ ทางภาคตะวันออกของรัสเซีย ที่อยู่ห่างออกไปจากกรุงมอสโกมากกว่า 4,000 กิโลเมตร


Photo : extra.ie

ชีวิตของ คามอตสกี ในแต่ละวันเป็นไปอย่างเรียบง่าย เขาตื่นราว 8-9 โมงเช้า เพื่อเริ่มต้นทำกิจวัตรประจำวัน ไล่ตั้งแต่ ขับรถแทรกเตอร์ขนฟาง, ผ่าฟืนด้วยขวานเล่มใหญ่, ต้มอาหารสัตว์ที่ทำจากข้าวชนิดต่าง ๆ รวมถึงมันฝรั่ง ก่อนแบกถังหลายใบด้วยตัวเอง เพื่อนำอาหารเหล่านั้นไปเลี้ยงหมูราวสิบชีวิตในคอก จากนั้นในช่วงบ่าย คามอตสกี จะเดินทางไปดูแลความเรียบร้อยที่ฟาร์มผึ้ง  

"สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ยืนหน้ารังผึ้งเมื่อพวกมันบินออกมา เพราะมันกำลังวุ่นวายในการทำงานเพื่อสร้างน้ำผึ้งให้กับเรา" คามอตสกี แบ่งปันเคล็ดลับการเลี้ยงดูผึ้งสไตล์ชาวรัสเซีย

คามอตสกี รับหน้าที่ดูแลทุกอย่างในฟาร์มเพียงลำพัง เพราะคุณแม่ของเขามีอายุมากเกินกว่าจะจัดการ แต่หน้าที่ในแต่ละวันที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา 

เพราะ คามอตสกี คือ ชายร่างใหญ่น้ำหนัก 170 กิโลกรัม และมีความแข็งแรงถึงขนาดว่า สามารถยกล้อรถแทรกเตอร์ที่มีขนาดสูงเกือบ 2 เมตรให้ตั้งขึ้นได้ด้วยตัวเอง


Photo : extra.ie

เขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างดี คามอตสกี จึงมีงานอดิเรกเป็นการยกน้ำหนัก และตระเวนลงแข่งขันที่จัดขึ้นในระดับภูมิภาค เขาคว้าเหรียญทองกีฬายกน้ำหนักในการแข่งขันระดับจังหวัด และรายการ Asia Center เมื่อปี 2018 นอกจากนี้ คามอตสกี ยังเคยคว้าอันดับ 4 จากกิจกรรมแข่งกินติ่มซําภายในจังหวัดครัสโนยาสค์

ถึงจะคว้าแชมป์หลายเวที แต่ คามอตสกี ไม่มีชื่อเสียงมากกว่าชาวนาคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างไม่รีบเร่งในฟาร์ม และแบ่งปันเวลาว่างไปกับการนั่งพักผ่อนมองดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า 

โดย คามอตสกี ไม่รู้เลยว่า เขาจะกลายเป็นคนดังในโลกอินเตอร์เน็ตเพียงชั่วข้ามคืน ในฐานะแชมป์การแข่งตบหน้าที่เก่งกาจสุดในโลก

 

แชมป์ตบหน้าประจำจังหวัด

การแข่งตบหน้า เริ่มต้นในรับความนิยมในประเทศรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 เมื่อ คิริล ซารีเชฟ นักยกน้ำหนักชื่อดังชาวรัสเซีย จัดอีเวนต์ Siberia Power Show มหกรรมของคนบ้าพลังที่กรุงมอสโก ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันยกน้ำหนัก หรือ การแข่งขันเพาะกาย

แต่ไม่มีกิจกรรมไหนได้รับความสนใจมากกว่า การแข่งตบหน้า โดยกีฬาชนิดนี้มีกติกาที่ง่าย และไม่ซับซ้อน ผู้เข้าแข่งขันสองคนเผชิญหน้ากันตรงข้ามกล่องขนาดใหญ่ หลังจากนั้น ต่างฝ่ายต้องผลัดกันตบหน้า จนกว่าอีกฝ่ายจะสลบ หรือ ยอมแพ้


Photo : www.rbth.com

การแข่งตบหน้า ได้รับความนิยม จนอีเวนต์ Siberia Power Show ต้องออกทัวร์จัดงานทั่วประเทศรัสเซีย กระทั่ง เดือนมีนาคม ปี 2019 มหกรรมบ้าพลังได้เดินทางมาสู่จังหวัดครัสโนยาสค์ บ้านเกิดของ คามอตสกี

ทันทีที่ทราบข่าว เขาตีตั๋วเพื่อเข้าร่วมงานทันที แต่ไม่ใช่เพราะต้องการลงแข่งขันตบหน้า อันที่จริง คามอตสกี เดินทางไปยัง Siberia Power Show เพราะต้องการพบปะและขอลายเซ็นจาก คิริล ซารีเชฟ ผู้เป็นไอดอลในการยกน้ำหนัก ส่วนการแข่งตบหน้า คามอตสกี ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

เหตุผลเดียวที่เขากลายเป็นคนดังอย่างทุกวันนี้ จึงมาจากความบังเอิญ เมื่อ คามอตสกี พบเจอการแข่งตบหน้า ขณะเดินเล่นอยู่ในมหกรรมบ้าพลัง และถูกชักชวนโดยผองเพื่อนให้ลองทดสอบความแข็งแกร่ง คามอตสกี ตกปากรับคำท้า และลงแข่งขันด้วยฉายา "มนุษย์ติ่มซำ" ซึ่งมาจากอาหารสุดโปรดของเขา

"มีคนดูการแข่งตบหน้าอยู่ประมาณ 1,000 คน ผมแค่เดินเข้าไปแล้วสมัครลงแข่งขัน" คามอตสกีให้สัมภาษณ์กับ The Guardian

"หลังจากนั้น มีคนถามผมว่า คุณทำอาชีพอะไร? ผมตอบกลับแบบขำ ๆ ว่า ผมกินติ่มซำเป็นอาชีพ หลังจากนั้นพวกเขาก็เรียกผมว่า 'มนุษย์ติ่มซำ' มาตลอด"

ฉายาของ คามอตสกี อาจฟังดูน่ารัก แต่ทันทีที่ก้าวสู่การแข่งขัน คามอตสกี ไม่ตลกอีกต่อไป เขาเผชิญหน้ากับชายเสื้อขาวที่อยู่เบื้องหน้า คามอตสกี เป็นฝ่ายถูกตบหน้าก่อน เขาถูกซัดอย่างแรงด้วยฝ่ามือด้านขวาของคู่ต่อสู้ 

แต่ คามอตสกี ไม่สะทกสะท้าน เขาสวนกลับด้วยการตบที่รุนแรงจนคู่แข่งถึงกับเซ ก่อนตบอีกครั้งในรอบถัดมา จนคู่แข่งสลบทั้งยืน



ผู้ชายเสื้อขาวรายนั้นไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียวของ คามอตสกี เขายังตบผู้เข้าแข่งขันอีกคนจนสลบทั้งยืน ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว คลิปวิดีโอที่บันทึกฝ่ามืออันทรงพลังของคามอตสกีถูกเผยแพร่สู่โลกอินเตอร์เน็ต และกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึง จนมีผู้ชมมากกว่า 4 ล้านคน ภายในเวลาราวสองเดือน

"ผมน็อคเอาต์คู่แข่ง 2 คน ผมไม่คิดว่าจะมีใครทำแบบนี้ได้มาก่อนนะ" คามอตสกี เล่าให้ฟังถึงความโด่งดังของเขาแบบติดตลก

คามอตสกี คว้าแชมป์ในการแข่งตบหน้าครั้งดังกล่าว เขาได้รับรางวัลเป็นเงิน 3 หมื่นรูเบิลรัสเซีย หรือราว 1 หมื่นบาท พร้อมกับชื่อเสียงที่เปลี่ยนชีวิตชาวนาคนหนึ่ง สู่คนดังในโลกอินเตอร์เน็ตแบบชั่วข้ามคืน

 

ชีวิตที่เปลี่ยนไป

หลังจากการแข่งขันในวันนั้น คามอตสกี ได้รับการติดต่อจากนักข่าวจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สเปน หรือ ญี่ปุ่น, ผู้คนเริ่มจดจำเขาได้ขณะเดินตามท้องถนน และยังถูกยกย่องให้เป็นฮีโร่ในกลุ่มแฟนบอลของทีม สปาร์ตัก มอสโก สโมสรที่ คามอตสกี สนับสนุน 

แต่ที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้น แม้แต่แฟนบอลของ ซีเอสเคเอ มอสโก อริของ สปาร์ตัก มอสโก ยังส่งจดหมายเพื่อชื่นชมความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ของคามอตสกี


Photo : www.progambler.com

คนเดียวที่ดูไม่ยินดียินร้ายกับความโด่งดังของ คามอตสกี มากเท่าใดนัก คือ ตัวเขาเอง แม้จะตระเวนลงแข่งขันตบหน้าอีกหลายรายการ แต่ คามอตสกี กลับมองว่า การแข่งตบหน้าไม่ใช่กีฬาที่ผู้ชนะควรได้รับการชื่นชมมากขนาดนั้น แถมยังบอกอีกว่า การแข่งตบหน้า เหมือนกับการแข่งขันเกมโชว์เสียมากกว่า

"มันไม่ใช่กีฬา มันคือโชว์" คามอตสกี เปิดใจถึงความรู้สึกที่เขามีต่อการแข่งตบหน้า

"ทุกคนที่เขามาดูคลิปจะคอมเมนต์ว่า 'คนพวกนี้มันโง่' หรือ 'ทำไมพวกเขาต้องตบหน้ากันแบบนั้น' แต่ผู้คนก็ยังดูมันอยู่ดี นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องการสิ่งนี้"

"ผมรู้สึกว่าการตบหน้ากำลังขโมยทุกอย่างไปจากงาน Siberian Power Show มันยังมีกิจกรรมอีกมากมายในอีเวนต์นี้ แต่ทุกคนกลับถามหาถึงแต่การตบหน้า"


Photo : www.rbth.com

ความโด่งดังชั่วข้ามคืนจากการแข่งตบหน้า ไม่ได้เปลี่ยนตัวตนของ คามอตสกี เขาคือชาวนาจากชนบทที่มีความสุขในการเลี้ยงหมู มีความสุขในการกินติ่มซำ และชื่นชอบกีฬายกน้ำหนัก พละกำลังของฝ่ามือราวยอดมนุษย์ เป็นเพียงผลพลอยได้จากภาระหน้าที่บนไร่นาของครอบครัว

คามอตสกี คือตำนานของการแข่งตบหน้า คลิปวิดีโอของเขาคงโลดแล่นบนโลกอินเตอร์เน็ตต่อไป แต่ชีวิตจริงของ คามอตสกี ดำเนินในรูปแบบที่แตกต่าง บนดินแดนอันห่างไกลที่ไม่รีบเร่ง และปราศจากการแข่งขันอันโหดร้าย คามอตสกี ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในฐานะชาวนาคนหนึ่งต่อไป


Photo : www.theguardian.com

"ชีวิตของผมคือการดูแลฟาร์ม ทำงาน และพัฒนาฟาร์มให้ดีขึ้น แน่นอนว่ามีคนบอกให้ผมย้ายไปอยู่มอสโก เพราะยังมีผู้คนอีกมากให้ผมเอาชนะ แต่ไม่รู้สิ ผมโอเคกับชีวิตที่นี่นะ" คามอตสกี กล่าวถึงชีวิตของเขาที่จะดำเนินเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook