[OPINION] "โอบาเมยอง, วิลเลียน" การเดิมพันที่ไม่คุ้มค่าของปืนใหญ่?!

หลังจบเกมที่ อาร์เซน่อล บุกไปพ่ายให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในศึกลอนดอนดาร์บี้พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ด้วยสกอร์ 0-2 ทำให้อันดับของพวกเขาตอนนี้ร่วงลงไปอยู่ที่ 15 เก็บได้ 13 คะแนนจากการลงสนาม 11 นัดถือเป็นการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 39 ปี

เรื่องรูปเกมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงมีการพูดถึงไปแล้วตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีด แต่เรื่องที่ยังไม่ค่อยมีใครพาดพิงสักเท่าไหร่นั่นคือฟอร์มของนักเตะจอมเก๋า 2 รายอย่าง ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง และ วิลเลียน

ในเกมเช่นนี้คุณต้องการนักเตะที่มากด้วยประสบการณ์ โดยหวังว่าผู้เล่นเหล่านั้นจะเป็นเสาหลักให้กับทีมที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งมากมายอย่าง อาร์เซน่อล แต่สิ่งที่พบก็คือพวกเขาแทบไม่เหลือฟอร์มเก่งและไม่มีบทบาทในการช่วยผลักดันผู้เล่นอายุน้อยเหล่านั้นเลย

เริ่มกันที่รายแรกอย่าง โอบาเมยอง ที่โชว์ฟอร์มยิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับทีมปืนโตนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมปี 2018 โดยปีนั้นเขายิงได้ 10 ประตูจากการลงเล่น 12 นัดในช่วงครึ่งหลังซีซั่น 2017/18 ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากสำหรับนักเตะหน้าใหม่

จากนั้นตลอดทั้ง 2 ซีซั่น "โอบา" ก็กลายเป็นผู้เล่นที่อาร์เซน่อลขาดไม่ได้ โดยระเบิดตาข่ายในพรีเมียร์ลีกไปฤดูกาลละ 22 ประตู ติดอันดับดาวซัลโวทุกปี

จนกระทั่งเมื่อสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 พร้อมกับข่าวการให้ความสนใจจากยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นทำให้บอร์ดบริหารยอมเสี่ยงทุ่มหมดหน้าตักเพื่อรั้งดาวยิงอันดับหนึ่งของทีมเอาไว้ให้ได้ โดยพร้อมจ่ายค่าเหนื่อยระดับ 2.5-3 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์และสัญญาระยะยาวอีก 3 ปี

สำหรับนักเตะวัย 31 ปีที่กำลังเข้าใกล้ช่วงปลายของอาชีพการค้าแข้ง ข้อเสนอเช่นนี้จึงมิอาจปฏิเสธได้ การจรดปากกาลงนามในสัญญาฉบับใหม่จึงเกิดขึ้นในเดือนกันยายนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกฝ่ายโดยเฉพาะ มิเกล อาร์เตตา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ แม้ว่าโอบาจะเปิดตัวได้อย่างเร้าใจในเกมเปิดสนามที่พบกับ ฟูแล่ม แต่หลังจากนั้นมาเขาก็ไม่เคยแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมเหมือนที่เคยเป็นอีกเลย

กองหน้าทีมชาติกาบองเพิ่งยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไปเพียง 2 ลูกพร้อมทำ 1 แอสซิสต์ จากการลงสนามครบทั้ง 11 นัด และยิงอีก 1 ประตูในยูโรป้าลีก จากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง 1 นัด นั่นทำให้ภาพของ เมซุต โอซิล ผุดขึ้นมาในหัวแฟนบอลโดยทันที

เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมันต่อสัญญาใหม่กับสโมสรเมื่อปี 2018 พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ภายใต้การกุมบังเหียนของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่หลังจากนั้นไม่นานเมื่อกุนซือชาวฝรั่งเศสแยกทางกับอาร์เซน่อล โอซิลก็ค่อยๆกลายเป็นส่วนเกินของสโมสรไปทีละนิด

สถานภาพในปัจจุบันของสตาร์วัย 32 ปีคือนักเตะที่มีสังกัดแต่ไม่สามารถลงเล่นในพรีเมียร์ลีกและยูโรป้าลีกได้ เพราะอาร์เตตาตัดสินใจไม่ส่งชื่อทั้งสองรายการ จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ แต่นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่อาร์เซน่อลไม่เคยจำ

ซึ่งโอบาเมยองก็กำลังทำให้หลายคนคิดเช่นนั้นจากฟอร์มการเล่นในเกมล่าสุด

อีกหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ วิลเลียน ที่ย้ายมายังถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญากับเชลซี โดย เดอะ กันเนอร์ส ก็ใจกล้าบ้าบิ่นพอที่จะมอบสัญญา 3 ปีให้กับแข้งวัย 32 ปีซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของการค้าแข้ง ในขณะที่ต้นสังกัดเดิมนั้นไม่อาจจะยอมรับข้อเสนอนี้ได้

นั่นจึงทำให้ดาวเตะแซมบ้าตัดสินย้ายมาสวมเสื้อสีแดง-ขาวของอาร์เซน่อล รับค่าเหนื่อยระดับ 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมกับความคาดหวังที่จะเข้ามาเป็นตัวจุดประกายให้บรรดาดาวรุ่งวัยละอ่อนในทีม

วิลเลียนได้รับโอกาสให้ประเดิมเกมแรกกับฟูแล่มทันทีและเขาก็ไม่ทำให้อาร์เตตาผิดหวังด้วยการกระชากลากเลื้อยที่แฟนบอลต้องครางซี๊ดซ๊าด ก่อนจะปิดเกมด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ เป็นอะไรที่สวยงามกับการเปิดตัวให้ทีมใหม่

แต่ก็เหมือนกับโอบาเมยอง หลังจากนั้นมาปีกแซมบ้าก็ไม่เคยกลับมาอยู่ในฟอร์มนัดเปิดฤดูกาลได้อีกเลย เขายิงประตูไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวจากการลงสนามอีก 9 นัดต่อมา โดยทำได้ดีที่สุดด้วยการทำอีก 1 แอสซิสต์พร้อมกับผลงานของทีมที่สาละวันเตี้ยลงจนเกาะกลุ่มท้ายตารางอย่างที่เห็นในตอนนี้

โดยเฉพาะเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นในนัดล่าสุด ทั้งโอบาและวิลเลียนก็ยังไม่สามารถกลับมาโชว์ฟอร์มเก่าๆเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วได้ โดยเว็บไซต์ whoscored ให้คะแนนความสามารถในเกมดังกล่าวกับปีกแซมบ้าเพียง 6.2 คะแนน ส่วนโอบาเมยองนั้นหนักกว่าคือได้แค่ 6 คะแนน กลายเป็นผู้เล่นเอาต์ฟิลด์ที่ได้คะแนนต่ำสุดในทีม

สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมกับสเปอร์สจึงทำให้ใครหลายคนคิดว่า อาร์เซน่อลกำลังทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ตัดสินใจสร้างทีมด้วยการทุ่มค่าเหนื่อยมหาศาลให้กับสตาร์ทั้ง 2 ราย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นแทบไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังต้องมานั่งแบกค่าเหนื่อยมหาศาลเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในเคสของ เมซุต โอซิล อยู่ในตอนนี้

รวมทั้ง มิเกล อาร์เตตา ที่ดูเหมือนเริ่มจะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แล้วเช่นกัน