หวานเป็นลม ขมสิดี : เบอร์ตัน อัลเบียน สโมสรฟุตบอลในเมืองที่ผลิตเบียร์มานานกว่าร้อยปี

หวานเป็นลม ขมสิดี : เบอร์ตัน อัลเบียน สโมสรฟุตบอลในเมืองที่ผลิตเบียร์มานานกว่าร้อยปี

หวานเป็นลม ขมสิดี : เบอร์ตัน อัลเบียน สโมสรฟุตบอลในเมืองที่ผลิตเบียร์มานานกว่าร้อยปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟุตบอลมีเสน่ห์ คือเรื่องราวระหว่างสโมสรกับท้องถิ่น แต่ละพื้นที่มีอัตลักษณ์เฉพาะแตกต่างกันไป เมืองไหนโดดเด่นเรื่องใด พวกเขาจะถ่ายทอดความภาคภูมิใจลงในทีมกีฬา

ประเทศอังกฤษมีเมืองแห่งหนึ่ง เป็นที่กล่าวขานเรื่องรสชาติเบียร์อันล้ำเลิศ จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก สวนทางกัน ทีมฟุตบอลของพวกเขาแทบไม่มีใครรู้จัก แต่ถึงอย่างนั้น สโมสรแห่งนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ท่ามกลางความภาคภูมิใจของชาวเมืองทุกคน

Main Stand พาคุณมารู้จักเรื่องราวของ เบอร์ตัน อัลเบียน สโมสรฟุตบอลประจำเมืองผลิตเบียร์มานานกว่าร้อยปี

เบอร์ตัน ต้นตำรับเพลเอล

เบอร์ตัน คือ เมืองการค้าตั้งอยู่ในเขตสแตฟฟอร์ดเชียร์ ภูมิภาคเวสต์มิดแลนด์ ประเทศอังกฤษ ดินแดนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ผ่านเรื่องดีและร้ายมากมาย ตั้งแต่ ความรุ่งโรจน์ของโบสถ์เบอร์ตันจนถึงสงครามกลางเมือง


Photo : Ferry Bridge Kiosk

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เข้าสู่เบอร์ตัน ในช่วงกลางทศวรรษ 1750’s จากการสำรวจแม่น้ำเทรนท์ที่ตัดผ่านเมืองแห่งนี้ บรรดานักสำรวจต่างลงความเห็นว่า เบอร์ตันคือทำเลทองในการค้าขาย พวกเขาจึงเริ่มต้นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้มากกว่าการค้าเหล็กและไม้ นั่นคือ โรงเบียร์

ข้อได้เปรียบจากการมีแม่น้ำตัดผ่าน เบอร์ตันสามารถส่งเบียร์สู่กรุงลอนดอน ไปจนถึงเมืองทางเหนืออย่างลิเวอร์พูล ประกอบกับนโยบายต่างประเทศของจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส ที่ปิดน่านน้ำไม่ให้สหราชอาณาจักรทำการค้า ชาวอังกฤษจึงหันมาบริโภคสินค้าในประเทศ เบียร์จากเบอร์ตันจึงครองตลาดนับแต่นั้น

ปี 1880 ธุรกิจน้ำเมาในเบอร์ตันรุ่งเรืองสุดขีด มีโรงเบียร์มากกว่า 30 แห่ง ก่อตั้งขึ้นในเมืองแห่งนี้ โดยยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ บาส (Bass) ยี่ห้อเบียร์ที่กล่าวอ้างว่าเป็นเพลเอล (Pale Ale) ตัวแรกของโลก จากการเริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี 1771


Photo : www.beeretseq.com

เหตุผลที่เบียร์บาสได้รับความนิยม จนรู้จักกันทั่วโลกในนาม บาส เอล (Bass Ale) เนื่องจากความยอดเยี่ยมของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ มาจากแหล่งน้ำในเมืองเบอร์ตันที่เป็นน้ำบาดาล รสชาติจะแข็งกระด้างกว่าทั่วไป เหมาะกับการต้มเบียร์เพลเอลเป็นอย่างมาก

“เบียร์คลาสสิก มาพร้อมกับกลิ่นของมอลต์ ผลไม้ และถั่ว ร่วมด้วยรสชาติซับซ้อนจนน่าพึงพอใจ” ประโยคดังกล่าวคือคำโฆษณาของเบียร์บาส ซึ่งไม่ได้เกินจากความเป็นจริง เพลเอลจากเบอร์ตัน มีจุดเด่นจากใช้ดอกฮ็อพและข้าวบาร์เลย์ในการต้ม จนเกิดสีอำพันสวยงาม และสามารถบาลานซ์รสชาติมอลต์จากข้าว เข้ากับความขมจากฮ็อพอย่างลงตัว

ด้วยเหตุนี้ ความนิยมของเบียร์บาสพุ่งสูงมาก จนกลายเป็นธุรกิจแรกที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในสหราชอาณาจักร เมื่อเดือนมกราคมปี 1871 โลโก้สามเหลี่ยมสีแดงที่แปะไว้บนฉลากหน้าขวดของเบียร์บาส จึงกลายเป็นสิ่งแรกที่คนทั่วโลกนึกถึง เมื่อเห็นคำว่า เบอร์ตัน เพลเอล

คนต้มเบียร์

โรงเบียร์กลายเป็นหัวใจหลักของเบอร์ตัน ผู้ประกอบการธุรกิจเหล่านี้จึงมีอิทธิพลในด้านต่างๆ ของเมือง กีฬาคือหนึ่งในนั้น แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่แตกต่างจากเมืองอย่าง ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ฟุตบอลไม่ใช่กีฬาที่พวกเขาให้ความสำคัญ


Photo : beertoday.co.uk

กีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเบอร์ตัน คือ คริกเกต เริ่มต้นในช่วง ทศวรรษ 1840’s โดยผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ อับราม บาส ทายาทธุรกิจเบียร์หมายเลขหนึ่งประจำเมือง 

อิทธิพลในกีฬาคริกเกตของเขา ส่งผลให้โรงเบียร์คู่แข่งในเบอร์ตัน พากันตั้งทีมคริกเกตของตัวเองขึ้นมา จนเกิดการแข่งขันแข่งขันคริกเกตประจำเมืองเบอร์ตัน ชื่อว่า บริวเวอรีส์ คัพ (Breweries Cup) ตั้งแต่ปี 1894 จนถึงปัจจุบัน

ฟุตบอลคือกีฬาของชนชั้นแรงงาน และไม่ใช่กลุ่มพ่อค้าที่ครองความยิ่งใหญ่ในเบอร์ตัน กีฬาฟุตบอลจึงไม่เคยได้รับความนิยม และหายไปเป็นระยะเวลา 10 ปี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กระทั่งปี 1950 กีฬาลูกหนังกลับมาเยือนเมืองแห่งนี้อีกครั้ง จากการถือกำเนิดของสโมสร เบอร์ตัน อัลเบียน

เจ้าของฉายา “คนต้มเบียร์” เริ่มต้นด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของลีกภูมิภาคต่ำสุด พวกเขาใช้เวลานาน 15 ปี เพื่อเลื่อนชั้นขึ้นสู่ Southern League Premier Division แต่อยู่ในลีกดังกล่าวแค่ 3 ฤดูกาล เบอร์ตัน อัลเบียน ตกสู่ลีกต่ำสุดอีกครั้ง


Photo : www.historicalkits.co.uk

เรื่องราวของทีมฟุตบอลแห่งนี้แตกต่างออกไป ความสำเร็จสูงสุดของหลายทีม คือ แชมป์ยุโรป, แชมป์ลีก หรือ แชมป์บอลถ้วย แต่สำหรับ เบอร์ตัน อัลเบียน แค่การไปเหยียบสนามเวมบลีย์ สังเวียนศักดิ์สิทธิ์ของฟุตบอลอังกฤษ ถือเป็นความฝันสูงสุดของพวกเขา 

ทัพคนต้มเบียร์เกือบทำสำเร็จ ในปี 1975 หลังผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ การแข่งขันเอฟเอ โทรฟี (FA Trophy) ฟุตบอลถ้วยของทีมกึ่งอาชีพของประเทศอังกฤษ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่สุดท้ายไปถึงฝัน พ่ายแพ้ทีม มัลต็อก ทาวน์ ตกรอบไป

เบอร์ตัน อัลเบียน เฝ้ารอการลงเล่นในสนามเวมบลีย์ จนกระทั่งปี 1987 วันที่รอคอยมาถึง พวกเขาทะลุสู่รอบชิงชนะเลิศรายการ เอฟเอ โทรฟี เข้าชิงแชมป์กับสโมสร คิดเดอร์มินสเตอร์ แฮริเออร์ส 


Photo : www.burtonalbionfc.co.uk

ไม่รู้เพราะพวกเขาตั้งเป้าแค่การเล่นในเวมบลีย์หรือไม่ เบอร์ตัน อัลเบียน จึงได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้แชมป์ จากผลการแข่งขัน 0-0 ในนัดแรก ก่อนกลับบ้านมือเปล่า ด้วยความพ่ายแพ้ 2-1 ในนัดรีเพลย์

การลงเล่นในเวมบลีย์ คือความยิ่งใหญ่สูงสุดที่สโมสรแห่งนี้เคยสัมผัส หลังจากนั้นพวกเขาล้มลุกคลุกคลานอยู่ในลีกระดับภูมิภาค ชื่อเสียงของทีมฟุตบอลไม่เคยก้าวไกลทั่วอังกฤษ เหมือนผลิตภัณฑ์เบียร์ จนกระทั่งกาลเวลาหมุนเข้าสู่ยุค 2000’s ช่วงเวลาที่น่ามหัศจรรย์ของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้น

 

ความภาคภูมิใจในเมืองเบียร์

เดือนมกราคม ปี 2006 สโมสรเบอร์ตัน อัลเบียน ตกเป็นข่าวดังทั่วอังกฤษ หลังพลพรรคคนต้มเบียร์ เปิด Pirelli Stadium รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังคงเป็นทีมหมายเลขหนึ่งของประเทศ ภายใต้การคุมทีมของสุดยอดโค้ช เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการแข่งขันเอฟเอคัพ รอบสาม ฤดูกาล 2005-06


Photo : www.staffordshire-live.co.uk

ต่อหน้าแฟนบอล 6,191 รายในสนาม เบอร์ตัน อัลเบียน ทำในสิ่งเหลือเชื่อ ทีมฟุตบอลนอกลีกยันเสมอทัพปีศาจแดงด้วยสกอร์ 0-0 สำนักข่าว The Guardian พาดหัว “เบอร์ตันผู้กล้าหาญกับเฟอร์กูสันผู้ขายหน้า” ยกย่องความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ทีมโค้ชและผู้บริหารไม่ดีใจไปกับชื่อเสียง มากกว่าเงิน 5 แสนปอนด์ ที่สโมสรจะได้รับจากการไปเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการแข่งขันนัดรีเพลย์

“ผมภูมิใจในตัวพวกเขาทุกคน คุณสามารถเข้าใจได้ว่าผมหมายถึงอะไร นัดรีเพลย์มีมูลค่าราว 5 แสนปอนด์ สำหรับทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะพาร์ทไทม์ แต่สามารถเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคิดว่าเราสมควรได้รับสิ่งนั้น” ไนเจล คลัฟ กุนซือทีม เบอร์ตัน อัลเบียน กล่าว

เรื่องราวของ เบอร์ตัน อัลเบียน ในโรงละครแห่งความฝันแตกต่างจากการแข่งขันนัดแรก พวกเขาโดนเจ้าถิ่นถลุงยับ 5-0 แต่ถึงอย่างนั้น ทัพคนต้มเบียร์ยังตกเป็นข่าวทั่วประเทศ หลังแฟนบอลของทีมจำนวนเกือบ 11,000 ราย เดินทางสู่เมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อดูทีมรักลงเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรก (และครั้งเดียว) จนกลายเป็นสถิติผู้ชมทีมเยือนสูงสุดของสนามแห่งนี้


Photo : www.90min.com

ความสำเร็จในการต้านทานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นจุดเริ่มต้นยุครุ่งเรืองของ เบอร์ตัน อัลเบียน ฤดูกาล 2008-09 พวกเขาประสบความสำเร็จในสิ่งที่ไม่เคยคาดฝัน คือการคว้าแชมป์ Blue Square Football Conference เลื่อนชั้นสู่ลีกอาชีพเป็นครั้งแรก นับแต่ก่อตั้งสโมสรเป็นเวลายาวนานกว่า 50 ปี

มาถึงจุดนี้ บางคนอาจคิดว่าความสำเร็จของ เบอร์ตัน อัลเบียน เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ หลายครั้งที่เราเห็นทีมรูปแบบแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ประสบความสำเร็จดั่งฝัน ก่อนล่มสลายในเวลาไม่นาน แต่อย่างที่เรากล่าวไว้ว่า เรื่องราวของทีมฟุตบอลแห่งนี้แตกต่างออกไป เบอร์ตัน อัลเบียน ไม่เคยถอยหลัง นับแต่วันที่ได้สัมผัสรสชาติของฟุตบอลลีกอาชีพ

ฤดูกาล 2014-15 เบอร์ตัน อัลเบียน คว้าแชมป์ลีกทู มาครอง ส่งตัวเองเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกวัน (League One) ทัพคนต้มเบียร์ทำในสิ่งน่าเหลือเชื่ออีกครั้ง ด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในฤดูกาล 2015–16 สามารถก้าวขึ้นสู่ลีกระดับ 2 ของประเทศ เดอะ แชมเปียนชิพ ได้สำเร็จ


Photo : www.sportdw.com

เบอร์ตัน อัลเบียน ลงเล่นในลีกระดับรองของอังกฤษ 2 ฤดูกาล ก่อนตกชั้นสู่ลีกวันอีกครั้ง และไม่เคยเลื่อนชั้น-ตกชั้น นับแต่นั้น ทุกวันนี้ เบอร์ตัน อัลเบียน คือทีมขาประจำของฟุตบอลลีกอาชีพ ไม่ใช่ทีมนอกลีกที่ไร้คนรู้จักอีกต่อไป แถมยังทำผลงานได้ดีในฟุตบอลถ้วยเหมือนเคย

ฤดูกาล 2018-19 เบอร์ตัน อัลเบียน ตกเป็นข่าวทั่วประเทศอีกครั้ง หลังผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลคาราบาว คัพ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์เหมือนครั้งเจอกับยูไนเต็ด ถูกทัพเรือใบสีฟ้าถล่มสองนัด 10-0 (รอบรองชนะเลิศของรายการนี้ แข่ง 2 นัด เหย้า-เยือน) แต่สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับ เบอร์ตัน อัลเบียน ยังคงไม่เปลี่ยนไป

แฟนบอล เบอร์ตัน อัลเบียน ราว 3,000 คน ซื้อตั๋วตามเชียร์ทีมรักลงแข่งขันที่ เอติฮัด สเตเดียม ทั้งที่รู้ว่าโอกาสพลิกล็อกเสมอหรือชนะแทบเป็นศูนย์ แต่ผลการแข่งขันไม่สำคัญ เท่ากับการได้เห็น เบอร์ตัน อัลเบียน คือความภาคภูมิใจของชาวเมืองเบอร์ตัน และพวกเขาสัมผัสถึงความรู้สึกเหล่านั้นเสมอ


Photo : www.footballparadise.com

“เราสร้างประวัติศาสตร์จากการก้าวมาไกลขนาดนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่คืนนี้ เราประสบความสำเร็จที่ได้มายืนจุดนี้” ไนเจล คลัฟ กุนซือของทีม ที่รีเทิร์นกลับมาคุมทีมรอบสอง บอกเล่าความรู้สึก หลังบุกไปพ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 9-0 ในนัดแรกของรอบรองชนะเลิศ (ก่อนที่เจ้าตัวจะลาออกไปแบบสดๆ ร้อนๆ ในเดือนพฤษภาคม 2020 นี้เอง)

“พวกเขา (แฟนซิตี้) ตะโกนต้องการลูกที่ 10 แต่เราหยุดพวกเขาได้ แค่นั้นถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราแล้ว”

เบอร์ตัน อัลเบียน ไม่ใช่ทีมใหญ่คับฟ้า หรือ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเหมือนกับ เบียร์เบอร์ตัน เพลเอล แต่บางครั้ง สิ่งใกล้ตัวที่เหมือนไร้ความหมาย สามารถสร้างความสุขได้เหลือล้น เหมือนเรื่องราวของ สโมสร เบอร์ตัน อัลเบียน ทีมฟุตบอลเล็กๆ ในเมืองเบียร์ ที่กลายความภาคภูมิใจของชาวเบอร์ตันทุกคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook