เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบิ๊กแมตช์ของลีกมหาชนชาวสยามอย่างพรีเมียร์ลีกคงหนีไม่พ้นเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ระหว่าง “ปิศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด กับ “สิงห์บลู” เชลซี ซึ่งผลการแข่งขันเสมอกันไป 1-1
ต้องบอกเลยว่าก่อนแข่งเซียนก่อนเกม กูรูลูกหนังทั้งหลายต่างเชื่อว่าทีมเยือนที่กำลังรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกเหนือกว่าและน่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ
ที่สำคัญแนวรับของพลพรรคอสูรแดงชั่วโมงนี้พร้อมจะเสียประตูได้ทุกเวลาและยังไม่รู้ด้วยว่าฤดูกาลนี้ใครคือตัวจริง เพราะตัวเจ็บเพียบบวกกับการโรเตชั่นนักเตะในตำแหน่งนี้เกือบทุกนัดของ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือจอมเฮี้ยบ
ส่วนทีมเยือนของ เดอะ โอนลี่ วัน โจเซ่ มูรินโญ่ กำลังเป็นจ่าฝูง ยิ่งการขับเคลื่อนของมิดฟิลด์อย่าง เอด็อง อาซาร์, ออสการ์ หรือ เชส ฟาเบรกาส ที่พร้อมจะเขย่าขวัญและสร้างความเสียหายให้กับคู่ต่อสู้
แต่ไม่รู้จะเป็นโชคดีของเจ้าบ้านหรือเปล่าที่เชลซีไม่มีมือสังหารอันดับหนึ่งอย่าง ดิเอโก้ คอสต้า ที่เจ็บ อันดับสอง โลอิก เรมี่ ก็เจ็บ เลยต้องใช้แมลงสาบเฒ่าอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา
โดยเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้สามเซ็นเตอร์เหมือนเดิม ประกอบไปด้วย ลุค ชอว์, มาร์กอส โรโฮ และ คริส สมอลลิ่ง พร้อมสองวิงแบ็กคือ ราฟาเอล กับ ดาลี่ย์ บลินด์ ซึ่งจากสภาพทีมที่เป็นรองกว่า ทำให้เป้าหมายของผู้จัดการทีมชาวดัตช์คือการรักษาผลเสมอให้ได้
ถ้าเทียบองค์ประกอบต่างๆ รวมทั้งตัวผู้เล่น ชั่วโมงนี้เจ้าบ้านเป็นรองกว่าชัดเจน แถมแนวรุกที่จัดว่าระดับพระกาฬก็ไม่พระกาฬ เพราะไม่มี เวย์น รูนี่ย์ ที่ติดโทษแบน กับ ราดาเมล ฟัลเกา ที่ไม่สมบูรณ์
รูปเกมครึ่งแรก เกมตรงกลางของแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไงไม่มีทางที่จะต่อบอลเข้าทำในเกมรุก สู้กับทีมเยือนได้อยู่แล้ว “พี่ฟู” มารูยาน เฟลไลนี่ ที่ถูกส่งลงมาจึงต้องมาช่วยในเกมรับมากกว่าเกมรุก แถมสองฟูลแบ็กเอง ถ้าสังเกตจะไม่ขึ้นสูงเวลาได้ครองบอล แต่จะขึ้นสูงในเวลาที่เล่นเกมสวนกลับเร็วมากกว่า
บวกกับความสามารถของ “พี่ลามะ” ดาบิด เด เกอา ที่โชว์ซูเปอร์เซฟในเกมนี้หลายครั้ง ทั้งจังหวะที่พี่แมลงสาบยิงเต็มๆ ในครึ่งแรก หรือจังหวะที่อาซาร์แหวกผ่านแนวรับกระดาษทิชชู่ของเจ้าบ้านมายิงแล้วติด
อย่างไรก็ตาม แนวรับราคาข้างถนนก็มาเสียประตูจนได้ในจังหวะเตะมุมต้นครึ่งหลังจากการประกบตัวที่ผิดพลาดของ “พี่เงาะ” ราฟาเอล ถ้าสังเกต ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เงาะถึงได้งานประกบกับพี่แมลงสาบ นักเตะที่ใช้หัวดีที่สุดในทีมคู่แข่ง ทั้งๆ ที่ความสูงไม่ถึง 180 ด้วยซ้ำ เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง
หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด พยายามบุกแต่ไม่ได้สร้างความหวาดเสียวให้กับเชลซีซักเท่าไหร่ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าแดนกลางคนละราคากัน
แต่ความพยายามของเจ้าบ้านมาประสบความสำเร็จช่วงทดเจ็บในจังหวะเซตพีซที่ “พี่ด็อบบี้” อังเคล ดิ มาเรีย ซึ่งวันนี้พกรองเท้าเตะฟิลด์โกล์อย่างเดียว เปิดให้พี่ฟูโหม่งติด ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนที่บอลเจ้ามาเข้าทาง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงซ้ำเข้าไป
จบเกมผลเสมออาจจะไม่ถูกใจทีมเยือนนัก แต่ส่วนตัวก็มองว่าเหมาะสม เพราะหลายจังหวะที่เชลซีเองก็ไม่เด็ดขาดและต้องให้เครดิตแนวรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีของแบรนด์อย่าง ฟาน เพอร์ซี่ อยู่ด้วย
ถ้าดูสถิติอาจจะแปลกใจนิดๆ เพราะแมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงมากกว่า (แมนฯ ยูไนเต็ด 19 ครั้ง เชลซี 9 ครั้ง) และเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่เท่ากัน
ดังนั้นยกแรกของ หลุยส์ ฟาน กัล กับ โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตศิษย์กับอาจารย์ที่เจอกันครั้งแรกบนแผ่นดินอังกฤษ ถ้าเป็นภาษามวย ฟาน ฮัล เฉือนชนะคะแนนแบบไม่เอกฉันท์ เพราะไม่แพ้ตามที่หวัง ส่วน "มูรินโญ่" ไม่ชนะตามเป้าหมายครับ
Bank