เมื่อห้าปีก่อน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยออกมากล่าวว่า ดาวิด อาลาบา คือนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงมาก สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง และเขาเชื่อว่าดาวเตะบาเยิร์น มิวนิค คนนี้จะสามารถเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในโลกได้

อาลาบาย้ายจากทีมออสเตรีย เวียนนา มาร่วมทัพทีมบาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่อายุได้ 15 ปีในฐานะนักเตะตำแหน่งมิดฟิลด์ แล้วมาถูกหลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งคุมทีม "เสือใต้" อยู่ในขณะนั้นจับให้ไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย ส่วนในยุคของเป๊ป อาลาบาได้โอกาสลงเล่นในหลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง ปีก และเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เช่นเดียวกับในยุคของคาร์โล อันเชล็อตติ

untitled-2

แม้อาลาบาจะประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้ายเป็นส่วนใหญ่ แต่ในฤดูกาลล่าสุดที่บาเยิร์นต้องประสบปัญหากองหลังพากันบาดเจ็บ กุนซือนิโก้ โควัช จึงต้องใช้บริการแข้งชาวออสเตรียให้ไปยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คอย่างที่โค้ชคนอื่นๆเคยทำ และแม้เวลาของโควัชกับบาเยิร์นจะสิ้นสุดลง แต่อาลาบาก็ยังได้รับความไว้วางใจจากกุนซือคนใหม่ฮันซี่ ฟลิค ให้ยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คมาจนถึงตอนนี้

อาลาบากลายเป็นหัวใจของแนวรับทีม "เสือใต้" ไปเป็นที่เรียบร้อย แม้จะมีกองหลังเลือดน้ำหอมค่าตัวเป็นสถิติอย่างลูคัส แอร์กน็องเดซ อยู่ในทีม แต่อาลาบาก็ยังเป็นตัวเลือกแรก ตามคำกล่าวของฟลิค อาลาบาเป็นนักเตะที่ฉลาด เขาคอยสั่งการและแนะนำเพื่อนร่วมทีมเสมอ แถมยังพัฒนาการเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คได้อย่างสุดยอด

faaaaa

แม้จะไม่ใช่นักเตะที่มีรูปร่างสูงใหญ่มากนัก (5 ฟุต 10 นิ้ว) แต่อาลาบาก็สามารถเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ทุกครั้งในเกมแดร์ คลาสสิกเคอร์ ที่เพิ่งบุกไปเยือนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และคว้า 3 แต้มสำคัญมาได้สำเร็จ แถมยังมีสถิติจ่ายบอลสำเร็จยอดเยี่ยมที่สุดในเกมนั้นถึง 95.4%

จากการลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค 20 นัดในฤดูกาลนี้ อาลาบาคือนักเตะที่สัมผัสบอลสูงสุดในทีมบาเยิร์นที่ 1,893 ครั้ง จ่ายบอลสำเร็จถึง 62% แย่งบอลสำเร็จ 64% และหากไม่นับรวมผู้รักษาประตู เขาคือผู้เล่นตัวจริงคนเดียวของบาเยิร์นที่ไม่เคยได้รับใบเหลืองและใบแดงเลย

fafa

โยชัว คิมมิช กล่าวถึงอาลาบาว่า "สำหรับผมแล้ว เขาโดดเด่นมากในตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่ผมคิดว่าเขาคือหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในโลกเลยด้วยซ้ำ ผมเคยบอกกับดาวิดว่าภาษากายของเขามันน่าทึ่งมาก เขาสร้างสรรค์เกมได้เยี่ยมและรักษาความนิ่งไว้ได้ภายใต้ความกดดัน"

และเมื่อเปรียบเทียบสถิติของอาลาบาที่เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คกับตอนที่เขาเล่นตำแหน่งอื่นๆแล้ว ถือว่าอาลาบาทำได้ดีกว่ามาก เขามีอัตราการเข้าบอลทั้งกลางอากาศและบนพื้นสูงขึ้น 10% จ่ายบอลแม่นขึ้น 3% และอัตราสัมผัสบอลก็สูงขึ้น 10% แม้อัตราการครอสลูกจะลดลง แต่ก็มีสถิติเปิดบอลยาวให้เพื่อนร่วมทีมเพิ่มมากขึ้น

การที่อาลาบาถูกย้ายมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คยังเป็นการเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งวัย 19 ปีอย่างอัลฟอนโซ่ เดวีส์ ได้ลงเล่นแทนตำแหน่งเดิมของเขาและก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดบนเวทีบุนเดสลีกาอีกด้วย แถมเจ้าหนูดาวรุ่งจากแคนาดายังสามารถใช้ความเร็วขึ้นไปช่วยเติมเกมบุก ทำให้อาวุธในเกมรุกของบาเยิร์นหลากหลายและน่ากลัวขึ้นไปอีก

"ผมมีนักเตะอย่างดาวิด อาลาบา อยู่เคียงข้างซึ่งเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลกและคอยช่วยผม ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ" เดวีส์กล่าวความในใจหลังได้โอกาสลงเล่นแทนตำแหน่งเดิมของอาลาบา

แต่ก็ใช่ว่าอาลาบาจะคอยโค้ชนักเตะรุ่นน้องอยู่ฝ่ายเดียว ในตอนนี้เขาก็กำลังได้โอกาสเรียนรู้งานในสนามจากควอเตอร์แบ็คแห่งวงการลูกหนังอย่างเชโรม บัวเต็ง ที่สามารถสอนเคล็ดลับการโยนบอลยาวไดเร็คต์ถึงกองหน้าอย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และนี่อาจทำให้บาเยิร์นมีอาวุธลับในเกมบุกที่มาจากกองหลังเพิ่มขึ้นไปอีก

ตำนานทีม "อินทรีเหล็ก" อย่าง โลธ่าร์ มัทเธอุส ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ปลื้มปริ่มและยกย่องในผลงานของอาลาบา เขาพูดถึงอาลาบาว่า "อาลาบาไม่เพียงแต่โชว์ฟอร์มเต็ม 100 ในเกมรับ แต่เขายังคอยปิดช่องว่าง เปิดบอลและเลี้ยงบอลด้วยความเร็ว ซึ่งปกติแล้วนักเตะคนหนึ่งจะเก่งแค่อย่างเดียวเท่านั้น ในตอนเริ่มต้นฤดูกาลคงไม่มีใครคิดว่าอาลาบาจะได้ยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค แต่ตอนนี้เขากลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกาไปแล้ว"

หากทุกคนจะเห็นตรงกันขนาดนี้ แฟนบอลก็คงไม่เถียงแล้วล่ะ...

อัลบั้มภาพ "ดาวิด อาลาบา" อาจเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกา! ภาพที่ 6 / 8

"ดาวิด อาลาบา" อาจเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกา!