"ยูเลียน บรันด์ท" แข้งคนสำคัญที่ "เสือเหลือง" ขาดไม่ได้!
ในนาทีนี้นับได้ว่าในทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีนักเตะคีย์แมนหลายคนจริงๆ ทั้ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, จาดอน ซานโช หรือกระทั่งกัปตันทีมอย่าง มาร์โค รอยส์ ที่ยังคงเจ็บอยู่ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า ยูเลียน บรันด์ท คืออีกหนึ่งแข้ง "เสือเหลือง" ที่อาจเป็นนักเตะคนสำคัญที่สุดของทีม
บรันด์ทเคยกล่าวไว้ตอนที่ย้ายจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาซบทีมดอร์ทมุนด์เมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมาว่า "ผมกำลังพยายามทำให้ทุกคนแน่ใจว่าผมจะเป็นนักเตะของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในแบบเดิมอย่างที่ทุกคนรู้จัก" แต่ในตอนนี้ บรันด์ทไม่ใช่นักเตะในแบบที่ทุกคนเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว..
บรันด์ทแจ้งเกิดในเยอรมนีได้ด้วยการคว้าเหรียญเงินฟริทซ์ วัลเทอร์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ทิโม แวร์เนอร์ ได้รับเหรียญทอง ซึ่งตอนนั้นเขายังเป็นนักเตะปีกซ้ายดาวรุ่งของโวล์ฟสบวร์ก เมื่อย้ายมาอยู่กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน แฟนบอลต่างก็ยังคงจดจำภาพของบรันด์ทในแบบเดิม จนกระทั่งปีเตอร์ บอซ เข้ามาคุมทีม "ห้างขายยา" เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
"ผมได้ดูเกมที่ยูเลียนลงเล่นมากมายระหว่างที่อยู่กับดอร์ทมุนด์ เราได้ลงแข่งกับทีมห้างขายยาที่เลเวอร์คูเซน ในตอนนั้นเขาเล่นตำแหน่งปีก แต่ผมมองว่าเขาคือมิดฟิลด์มากกว่า"
การเปลี่ยนตำแหน่งจากผู้เล่นริมเส้นที่มักใช้ทักษะการเลี้ยงบอลหนีคู่แข่งแบบตัวต่อตัวมาเป็นนักเตะมิดฟิลด์ที่ต้องฟัดกับผู้เล่นมากขึ้นถือเป็นเรื่องท้าทายและเป็นก้าวใหญ่ของบรันด์ท แต่ตรรกะของบอซก็คือ หากคุณมีนักเตะที่ไปกับบอลได้ดีอยู่ในมือ คุณก็ต้องให้เขาได้บอลมากขึ้น
"เขาคือนักเตะที่ดีจริงๆ และคุณก็ควรต้องให้บอลกับผู้เล่นดีๆแบบนี้มากเท่าที่จะเป็นไปได้" บอซกล่าวหลังจบเกมที่บรันด์ทโชว์ฟอร์มสุดยอดยิง 2 จ่าย 2 พาทีมถล่มไมนซ์ไป 5-1 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ในครึ่งหลังของฤดูกาล 2018/19 หลังถูกเปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ บรันด์ทก็สามารถโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมจนบอซปลื้มสุดๆ แต่ฟอร์มดีแบบนี้ก็เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะเขาก็มีอันต้องเสียบรันด์ทให้กับดอร์ทมุนด์ไปในช่วงซัมเมอร์ปีก่อน ปิดฉากการค้าแข้งในเสื้อทีม "ห้างขายยา" หลังรับใช้สโมสรมารวม 5 ปีครึ่ง
ในช่วงแรกๆของบรันด์ทกับทีม "เสือเหลือง" เขายังไม่ค่อยได้รับโอกาสจากลูเซียง ฟาฟร์ เท่าไรนัก แถมยังถูกจับไปเล่นริมเส้นเหมือนเดิมอีกด้วย แต่แล้ววันดีคืนดีกุนซือทีมดอร์ทมุนด์ก็มองเห็นศักยภาพในตัวบรันด์ทเช่นเดียวกับปีเตอร์ บอซ เขาจึงจับบรันด์ทมาลองเล่นเป็นมิดฟิลด์กลางสนาม และผลที่ออกมาก็เหมือนกับที่บอซทำไม่มีผิด
บรันด์ทเป็นนักเตะที่จ่ายบอลได้ดีในจังหวะสำคัญๆที่ช่วยให้ทีมได้ประโยชน์มาก เขามีสายตาอันเฉียบคมและมีพรสวรรค์ในการวางบอลไปในจุดที่ต้องการ แถมยังมีอัตราจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 84% ทำให้เขาเป็นนักเตะคนสำคัญในแดนกลางของทีม
หลังเกมที่ดอร์ทมุนด์เอาชนะฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ไปขาดลอย 5-0 ประตู บรันด์ทให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกสนุกที่ได้ลงเล่น การได้คุมเกมกลางสนามในนัดนั้นเหมือนเป็นการชุบชีวิตเขาขึ้นมาใหม่
"ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง คุณจะต้องเชื่อมโยงกับผู้เล่นทุกคน และยังเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญระหว่างแนวรับกับแนวรุก นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมกับฟอร์ทูน่า และมันก็ได้ผลดีจริงๆ"
"ผมไม่ใช่นักเตะประเภทที่เสียงดังแบบโยชัว คิมมิช หรือหัวเราะได้ตลอดเวลาแบบโทมัส มุลเลอร์ แต่ผมรู้ดีว่าตัวเองอยากจะซ้อมแบบไหน" บรันด์ทกล่าวคำพูดที่แสดงถึงทัศนคติในการเป็นนักฟุตบอลของเขา "ผมมองว่ามันเป็นหน้าที่ที่จะต้องคอยส่งเสริมและสนับสนุนสโมสรในเรื่องฟุตบอล ตอนนี้ผมต้องเป็นผู้เล่นที่ทำให้คนอื่นๆค้นหาตัวเองดูบ้าง"
นอกจากนี้ บรันด์ทยังเคยออกมาพูดว่าเขาอยากเป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญกับทีมอย่างเมซุต เออซิล "คุณจะไม่ค่อยได้ยินเสียงของเขา (เออซิล) ในสนามบ่อยนักหรอก แต่เขาสามารถตัดสินเกมได้เลย" แม้แข้งหน้าทารกอย่างบรันด์ทจะไม่ได้มีร่างกายกำยำไปไล่ฟัดหรือใช้กลเม็ดอะไรไปตุกติกเพื่อแย่งบอลกับมิดฟิลด์จอมพลังคนอื่นๆ แต่แข้งทีมชาติเยอรมนีวัย 24 ปีคนนี้ก็มีอัตราชนะดวลลูกบนพื้นสูงถึง 52% เป็นอัตราที่ยอดเยี่ยมไม่น้อยเลยสำหรับผู้เล่นที่มีหน้าที่สร้างสรรค์เกมแบบนี้
การที่รอยส์ถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้า ทำให้บรันด์ทต้องเข้ามาสวมบทบาทเดิมของกัปตันทีม ในเกมแรกที่พวกเขาลงเล่นในศึกแชมเปียนส์ลีกที่พบกับสลาเวีย ปราก บรันด์ทก็สามารถทำ 2 แอสซิสต์ให้อัชราฟ ฮาคิมี ยิง 2 ประตู และในเกมเดเอฟเบคัพดวลกับโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค เขาก็สวมบทฮีโร่เหมา 2 ประตูพาทีมแซงชนะคู่แข่งสำเร็จ นับว่าทำหน้าที่แทนมาร์โค รอยส์ ได้ไม่มีบกพร่อง
ในเกมล่าสุดที่บุนเดสลีกากลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งหลังไวรัสโคโรน่าระบาดไปทั่วโลก บรันด์ทได้ยืนเป็นหนึ่งในกองหน้าสามคน วิ่งสลับไปมาระหว่างตำแหน่งตรงกลางและริมเส้น ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงไม่มีตก มีส่วนกับทุกประตูของดอร์ทมุนด์และทำได้ 2 แอสซิสต์
แม้เส้นทางอาชีพค้าแข้งของนักเตะคนนี้จะยังมีอีกไกล แต่สิ่งที่แฟนบอลพอจะคาดเดาได้ก็คือ ในระยะยาวบรันด์ทอาจเป็นตัวตายตัวแทนของมาร์โค รอยส์ กัปตันทีมคนเก่งที่อายุปาเข้าไป 30 ปีแล้ว
แน่นอนว่าสื่ออาจต้องเล่นข่าวว่า เสือในถ้ำเดียวกันอาจไม่ลงรอยกัน แต่สำหรับคู่นี้แล้วบอกได้เลยว่าไม่มีการกินเกาเหลา เพราะรอยส์เป็นคนเอ่ยปากบอกบรันด์ทเองในตอนฝึกซ้อมกับทีมชาติว่าเขาอยากให้บรันด์ทย้ายมาอยู่กับดอร์ทมุนด์ นั่นคือสิ่งที่ไปสะกิดความคิดของบรันด์ท
และอย่าลืมว่ารอยส์เองก็เคยแจ้งเกิดมากับตำแหน่งปีกในสมัยที่เล่นให้กลัดบัค เมื่อสองนักเตะต่างก็มีอะไรเหมือนๆกันแบบนี้ก็น่าจะเข้าใจกันได้ดี การรวมพลังกันระหว่างสองนักเตะฝีเท้าเยี่ยมเช่นนี้น่าจะมีแต่ทำให้เกิดผลดีกับสโมสรมากกว่า บรันด์ทเคยพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับรอยส์ว่า ทุกอย่างมันก็ต้องใช้เวลากว่าจะรู้ได้ว่าอีกคนอยู่ตรงไหนโดยที่ไม่จำเป็นต้องมอง ถึงตอนนี้เขาและรอยส์ต่างก็เก่งขึ้นและไปด้วยกันได้ดี และทั้งคู่ก็เชื่อเสมอว่ามันจะต้องดีขึ้นอีก
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ