"วิลสัน" : เพื่อนรักของ "ทอม แฮงค์ส" และนักแสดงไร้ชีวิตที่เก่งกาจที่สุดที่โลกมี

"วิลสัน" : เพื่อนรักของ "ทอม แฮงค์ส" และนักแสดงไร้ชีวิตที่เก่งกาจที่สุดที่โลกมี

"วิลสัน" : เพื่อนรักของ "ทอม แฮงค์ส" และนักแสดงไร้ชีวิตที่เก่งกาจที่สุดที่โลกมี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"I'm Sorry Wilson".. นี่คือการกล่าวคำอำลาของ ชัค โนแลนด์ ชายผู้ติดอยู่บนเกาะที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันชื่อเกาะอะไร

ซีนดังกล่าวมาจากภาพยนตร์เรื่อง Cast Away หรือ "คนหลุดโลก" หนังระดับตำนานที่มี ทอม แฮงค์ส ดาราเจ้าบทบาทเป็นนักแสดงนำ.. และอีก 1 นักแสดงที่ไม่ต้องพูด ไม่ต้องออกแอ็คชั่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่กลับกลายเป็นที่จดจำไปทั้งโลกในฐานะนักแสดงสมทบที่ไม่มีชีวิตที่ดีที่สุด นั่นคือ "วิลสัน"

 

วิลสัน เป็นใครมาจากไหน ทำไมเขาจึงต้องมาติดเกาะกับ ชัค โนแลนด์ และร่วมหัวจมท้ายกันถึง 6 ปี?.. ติดตามได้ที่นี่

หนังที่บอกว่า "ทำไมมนุษย์จึงเป็นสัตว์สังคม" 

"คนเดียวก็ดี สบายออกจะตายไป" หลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เชื่อว่า การยิ่งมีสังคมน้อยและยิ่งปลีกวิเวก ปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัวก็น้อยลงไปโดยปริยาย

 1

จริงๆ แล้วมันก็เป็นความเชื่อและความคิดที่ไม่ผิด ขึ้นอยู่กับลักษณะ นิสัย และความชอบส่วนบุคคล "การอยู่ตัวคนเดียว" นั้นมีเรื่องดีมากมาย แต่ในเรื่อง Cast Away หนังกำลังสื่อให้เราเห็นว่า ในยามที่สิ้นหวังอับจนหนทางทื่สุด บางครั้งเราก็จำเป็นต้องมีใครสักคนที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่เดียวดาย และหากจะตายก็ไม่ได้หายไปจากโลกนี้เฉยๆ ยังคงสร้างความทรงจำให้กับใครสักคนให้พูดถึงตลอดไป

ในเรื่อง Cast Away ชัค โนแลนด์ เจ้าหน้าที่จากบริษัท FedEx เดินทางด้วยเครื่องบินและเกิดอุบัติเหตุจนตกไปอยู่ในเกาะร้างแห่งหนึ่ง และมหากาพย์การเอาชีวิตรอดก็เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันนั้น 

แรกเริ่มเดิมทีเราจะเห็นว่า ชัค มีความรู้สึกตึงเครียดน้อยมาก เขายังพอมีเวลาคิดหาความช่วยเหลือ และมองโลกในแง่ดีได้อยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญลักษณ์ SOS หรือใดๆ ก็ตามเพื่อบอกให้คนดู รวมถึงเครื่องบิน หรือเรือลำใดก็ตามที่มาเห็นได้รู้ว่า "เขายังไม่ตาย และไม่อยากตาย"

 2

สิ่งที่ ชัค ทำและแสดงให้เห็นว่า "การติดเกาะไม่ใช่เรื่องใหญ่" คือการเดินไปรอบๆ ชายหาด และไล่เก็บกล่องพัสดุที่ตกลงมาพร้อมๆ กับเขา และเมื่อเก็บได้ เขาไม่ได้มีความคิดแม้แต่จะเปิดมันเพราะเชื่อว่า "อีกไม่นานเขาจะได้เอาพัสดุเหล่านี้ไปส่งให้เจ้าของที่รออยู่" นั่นเอง 

จนกระทั่งหนังดำเนินเรื่องไปเอื่อยๆ แต่อธิบายถึงความเครียดที่ก่อตัวขึ้นทีละน้อย ชัค เริ่มหิว เริ่มโดนก่อกวนจากแมลง และเริ่มโมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จากเรื่องง่ายๆ เช่นการปอกมะพร้าว ก็ยังนำมาสู่ความหงุดหงิดได้ง่ายๆ 

 3

หลังจากความโมโหและสิ้นหวัง เขาได้พบว่าแท้จริงแล้วความช่วยเหลือจะไม่มีวันมาถึงง่ายๆ และที่สำคัญ คือด้วยสภาพความเป็นอยู่บนเกาะที่มีเพียงมนุษย์ยุคหินเท่านั้นที่อยู่ได้ กำลังจะฆ่าเขาทั้งเป็น

เมื่อถึงจุดนี้ หนังเริ่มแสดงให้เห็นถึงความฟุ้งซ่านและเพี้ยนของเขา เขาเริ่มจะทำอะไรประหลาดๆ ความอดทนที่มีหมดลง ชัค เริ่มแกะพัสดุเพราะจะหาของที่นำมาใช้ประโยชน์กับการเอาชีวิตรอด เขาได้ของที่ใช้ได้อย่างรองเท้าสเก็ตที่มีใบมีด ซึ่งทำให้ชีวิตของเขาง่ายขึ้นเยอะ กับการ เฉาะ ปอก สิ่งต่างๆ บนเกาะ ทว่ามีของสิ่งหนึ่งที่ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรเลย นั่นคือ "ลูกวอลเลย์บอล" ซึ่งบนเกาะแบบนี้เขาจะเอาไปเล่นกับใครได้? 

 4

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีเวลาของมัน แม้แต่ของอย่างลูกวอลเลย์บอลก็ยังมีประโยชน์ในเกาะร้างได้ เรื่องมันเกิดขึ้นจาก ชัค ประสบอุบัติเหตุจนมือเลือดออก เขาเจ็บมากและไม่รู้จะลงที่ใคร ก่อนที่เขาจะหันไปเจอลูกวอลเลย์ลูกนั้น และเขวี้ยงมันไปด้วยความโมโห 

จนกระทั่งอารมณ์ทุกอย่างสงบลง ชัค จึงค่อยหยิบลูกวอลเลย์ลูกนั้นขึ้นมาดู และพบว่ารอยเลือดของเขามีลักษณะคล้ายกับหน้าตาของคน ยิ่งไปติดบนวัสดุทรงกลมแล้ว มันยิ่งชวนให้คิดถึงหน้าตาของมนุษย์ที่เขาไม่เคยเจอมานานอย่างไม่ต้องสงสัย.. เมื่อความโมโหเริ่มคลายกลายเป็นการใช้เหตุผล เขาเลือกที่จะใช้ ลูกวอลเลย์บอล ลูกนั้นเป็นเพื่อน โดยตั้งชื่อมันว่า "วิลสัน" ตามชื่อยี่ห้อของมันนั่นเอง 

 5

หลังจากหนังได้เปิดตัว วิลสัน แล้ว กิจกรรมแทบทุกอย่างของ ชัค โนแลนด์ ก็มักจะมี วิลสัน คอยยิ้มรับให้เสมอ คุณจะสังเกตได้ว่าแม้ วิลสัน จะเป็นแค่ลูกวอลเลย์บอล แต่เมื่อ ชัค มองว่ามันมีค่า มองว่ามันเป็นเพื่อน ตัวละครของ วิลสัน ก็เหมือนกับดูมีชีวิตจิตใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด 

ที่ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อ ชัค สร้างตัวตนและทำให้ วิลสัน เป็นเพื่อนของเขา บรรยากาศและโทนของหนังก็ดูมีลูกเล่นใหม่ในทันที ชัค หาเรื่องพูดคุยกับ วิลสัน ไปต่างๆ นานา แทบทั้งวัน แม้คำตอบจะเป็นความเงียบ แต่ก็เป็นความเงียบที่บันเทิงอย่างเหลือเชื่อจากลูกวอลเลย์บอลลูกนี้ 

การได้เจอกับ วิลสัน ทำให้ ชัค "มีชีวิตชีวาขึ้น" จุดนี้มันทำให้เห็นว่าการมีใครสักคนนั้นสำคัญขนาดไหน ความสัมพันธ์ของ ชัค กับ วิลสัน อาจจะเริ่มจากความโกรธ แต่สุดท้ายแล้วมันก็จบลงด้วยมิตรภาพที่ชวนซึ้งระดับตำนาน 

 6

จุดนี้มันดูเหมือนสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง เราไม่มีเหตุผลยืนยันว่าผู้กำกับพยายามจะสื่ออะไรกับจุดนี้ แต่สิ่งที่หนึ่งที่สามารถตีความได้ก็คือ ใครบางคนคิดว่าการมีคนอื่นเข้ามาทำให้ชีวิตวุ่นวายและพาลให้หงุดหงิดเปล่าๆ จนกระทั่งวันที่เขาพบว่าเขาไม่มีใครแล้วจริงๆ และความโมโหที่เป็นอารมณ์ชั่วคราวได้จากไป เขาจึงได้พบแง่บวกอีกมายที่ซ่อนอยู่นั่นเอง

ในวันที่สิ้นหวังอับจนหนทาง การมีใครสักคนเป็นเรื่องที่ดีกว่าอย่างไม่สามารถปฎิเสธได้.. ไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำ ขอแค่รับฟังสิ่งที่เราอยากพูด อยากบอก นั่นก็เพียงพอแล้ว นั่นคือตัวตนที่ "วิลสัน" รับหน้าที่และช่วย ทอม แฮงค์ส แบกหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง

"วิลสัน" ตัวละครที่นักวิจัยยังซูฮก 

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้กำกับและผู้สร้างอาจจะไม่เคยบอกว่าทำไมต้องเป็น วิลสัน และทำไมคาแร็คเตอร์นี้จึงเป็นตำนานของวงการแสดง ทว่าวงการนักวิจัยมีการเอาเรื่องนี้มาวิเคราะห์กันอย่างจริงจัง 

พวกเขาไม่ได้มองว่า วิลสัน เป็นแค่นักแสดง แต่เป็นสิ่งที่ดึงเอาความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงของ ชัค โนแลนด์ ออกมา 

 7

"ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไม วิลสัน จึงไม่ได้รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม Cast Away แสดงให้เห็นสิ่งที่ลึกซึ้งในลักษณะทางสังคมที่ไม่อาจปฎิเสธได้ของโฮโมสปีชี่ส์" จอห์น คาโชปโป้ หนึ่งในทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโก้และฮาวาร์ด กล่าวกับ The New York Times 

การทดลอง (ที่ไม่ได้บอกวิธีการ) ของ จอห์น คาโชปโป้ บอกว่า เขาค้นพบถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเหงาของผู้คน ซึ่งมักจะซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์ เมื่อมนุษย์ถูกตัดขาดและอยู่เพียงลำพังในเวลานานมากพอ พวกเขาจะเริ่มมีความเชื่อใหม่ๆ เกิดขึ้นในตัวเอง บางคนเชื่อเรื่องราวเหนือธรรมชาติ บางคนเชื่อว่าพระเจ้าอยู่เคียงข้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกแทนด้วยตัวตนของ วิลสัน นั่นเอง 

"ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสิ่งของ (อาจหมายรวมถึงสัตว์ด้วย) อาจเป็นอะไรที่ทรงพลังได้เช่นกัน เพราะสมองของคนเราไม่ถึงกับละเอียดอ่อนมากพอที่จะจำแนกว่านี่คือมนุษย์หรือไม่ใช่กันแน่ หากความสัมพันธ์ใดก็ตามเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่มนุษย์ปฏิบัติกัน ความสัมพันธ์นั้นอาจเป็นเรื่องที่ช่วยให้เราดีขึ้นก็เป็นได้" ทีมวิจัยบอกถึงข้อมูลที่พวกเขาค้นคว้ามา 

 8

นักวิจัยกลุ่มนี้พยายามจะบอกว่าสิ่งที่ ชัค โนแลนด์ ทำ (คุยกับลูกวอลเลย์บอล) มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากความเพี้ยนหรอก แต่มันคือธรรมชาติของมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้คุณได้เห็นคนบางคนเรียกรถยนต์ว่าลูกสาว เรียกรถมอเตอร์ไซค์ว่าลูกชาย หรือแม้แต่เรียกแมวว่าเจ้านาย สิ่งเหล่านี้บอกว่ามนุษย์พร้อมจะผูกพันได้กับทุกๆ อย่าง ไม่ใช่แค่เฉพาะกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น 

ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ในแง่บวกเท่านั้น ในแง่ลบเองก็ด้วย ถ้าคุณเคยขว้างของอะไรก็ตามที่อยู่ใกล้มือด้วยความโมโห ตะโกนใส่กระจกที่ไม่มีชีวิต เดินไปเตะของที่ขวางทางด้วยความหงุดหงิด.. นั่นล่ะคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้จิตใจของคุณ คุณต้องการใครสักคนหรืออะไรสักอย่าง และอย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น "ไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไร ขอแค่เป็นที่ระบายให้เราได้ก็พอแล้ว"

ไม่มีรางวัลแต่โด่งดังเกินใคร 

ประโยคเด็ด "วิลสัน ฉันขอโทษ" (I'm Sorry Wilson) ในตอนที่ ชัค โนแลนด์ แพแตกและต้องเสียวิลสันไป ก่อนจะมีเรือลำหนึ่งพบตัวจน ชัค เอาชีวิตรอดได้ในท้ายที่สุด ประโยคนี้ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกผูกพันกับเจ้าลูกวอลเลย์บอลลูกนี้จริงๆ ซึ่งจุดนี้ วิลสัน ต้องขอบใจ ทอม แฮงค์ส ที่ตีบทแตกกระจายและทำให้มันกลายเป็นสิ่งไม่มีชีวิตที่มีชีวิตขึ้นมา 

 9

อย่างที่ ดร.จอห์น คาโชปโป้ ได้กล่าวไว้ "ทำไม วิลสัน จึงไม่ได้รางวัลออสการ์" มันคือคำถามที่ใครก็ตามที่ได้ดูเรื่องนี้อยากจะถามผู้แจกรางวัลเหมือนกัน และแม้ไม่มีรางวัลออสการ์ให้ แต่ วิลสัน ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ทอม แฮงค์ส ได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำ ในปี 2001 

ส่วนตัวของ วิลสัน ก็กลายเป็นความนิยมในหมู่คนที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือในปี 2001 มีการนำ 1 ใน 3 ของลูกวอลเลย์บอลยี่ห้อ Wilson ที่รับบทเป็น วิลสัน ในเรื่อง มาออกประมูล และมีผู้ยอมจ่ายเงินให้กับ ลูกวอลเลย์ Wilson ที่แสดงเป็น วิลสัน ถึง 18,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยก็เฉียดๆ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ บริษัท Wilson Sporting Goods ยังได้โอกาสผลิต ลูกวอลเลย์บอลที่มีลักษณะเหมือน วิลสัน ในเรื่อง ออกวางจำหน่ายในเว็บไซต์ โดยขายที่ลูกละ 19.99 ดอลลาร์ ซึ่งแน่นอนว่าขายดิบขายดีหมดเกลี้ยงทุกสต๊อก เพราะได้รับการตอบรับจากแฟนๆ อย่างคับคั่ง

ยังไม่จบ วิลสัน ยังเป็นดาวค้างฟ้าและถูกพูดถึงต่อไปเป็นอีกสิบๆ ปี โดยในปี 2015 ที่ ทอม แฮงค์ส มาดูเกมแข่งขัน ฮ็อคกี้ ที่มหานครนิวยอร์ก และกล้องถ่ายทอดสดได้จับภาพมาที่เขา ก็มีคนโยนลูกวอลเลย์ วิลสัน ให้กับเขา จนกลายเป็นแอ็คชั่นออกกล้องที่เป็นไวรัล ในช่วงเวลานั้นมีผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนออกมารีทวีตปลื้มปริ่ม กับการได้เห็นสองคู่ซี้แห่งเกาะยุคหินกลับมารียูเนี่ยนกันอีกครั้ง 

 10

แม้ปัจจุบัน ทอม แฮงค์ส จะเจอกับมรสุมในชีวิตจริง เมื่อเขาและภรรยา ริต้า วิลสัน คือผู้ป่วยที่ติดไวรัส โควิด-19 จนต้องเข้ารับการรักษาและกักกันตัวเองในประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ยังไม่วายมี Fake News ว่าทีมแพทย์ได้ส่ง วิลสัน มาเป็นเพื่อนซี้ เหมือนกับที่เคยสร้างชื่อเมื่อปี 2001 อีกด้วย ซึ่งก่อนที่โลกจะได้รู้ว่ามันเป็นข่าวปลอม มันก็กลายเป็น ไวรัล ไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะเบรกทัน 

สุดท้ายแล้วเราได้เห็นถึงความยอดเยี่ยมมากมายผ่านตัวละคร วิลสัน ในเรื่อง Cast Away นี่คือตัวละครที่สะท้อนความเหงาภายใต้จิตใจของมนุษย์ และสุดท้าย วิลสัน บอกโลกให้รู้ว่าหากคุณมีปัญหา จงหาใครสักคนที่ฟังที่อยู่ในใจของคุณ.. แล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจะดีขึ้นได้ หากคุณได้แบ่งปันสิ่งเหล่านั้นออกมา 

เหมือนกับ ชัค โนแลนด์ ที่ท้ายที่สุดแล้ว วิลสัน ได้มอบพลังและทำให้เขาได้กลับคืนสู่โลกแห่งความจริงที่เขาต้องการอีกครั้ง แม้ที่สุดแล้วการกลับสู่โลกแห่งความจริง จะทำให้เขาต้องพบกับความผิดหวังครั้งใหม่ก็ตาม.. จากที่เคยสู้แล้ว ก็ต้องสู้อีก อดีตที่เคยผ่านเรื่องยากๆ จะกลายเป็นภูมิต้านทานที่ทำให้ชีวิตไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ 

เพราะนั่นคือรสชาติของชีวิตอย่างแท้จริง... 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ "วิลสัน" : เพื่อนรักของ "ทอม แฮงค์ส" และนักแสดงไร้ชีวิตที่เก่งกาจที่สุดที่โลกมี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook