แอมเนสตี้ฯ ออกแถลงการณ์ กรณีเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ เทคโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิล

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ออกแถลงการณ์เตือน ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ​ ว่ามีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นแหล่งชุบตัวกรณีปล่อยให้ นิวคาสเซิล ถูกเทคโอเวอร์โดย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย

บิล ซัลมาน สมาชิกในราชวงศ์ผู้บริหารกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติของ ซาอุดิอาระเบีย ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงได้ทัพ สาลิกาดง ไปอยู่ในการครอบครองเต็มที

"เราเชื่อว่ามีคำถามเกิดขึ้นต่อการเทคโอเวอร์นี้ว่าเจ้าของและคณะผู้บริหารรายใหม่ของ นิวคาสเซิล มีคุณภาพมากพอที่จะปกป้องชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของฟุตบอลหรือไม่" เคท อัลเลน ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ แห่ง สหราชอาณาจักร ระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวต่อ ริชาร์ด มาสเตอร์ส ผู้อำนวยการ พรีเมียร์ลีก

"หากมกุฎราชกุมารที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของ ซาอุดิอาระเบีย และยังเป็นคนควบคุมกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติกลายเป็นเจ้าของผู้ได้ประโยชน์จาก นิวคาสเซิล เขาจะสร้างภาพลักษณ์ด้านบวกต่อ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างไร"

"เช่นเดียวกับคำถามเหล่านี้ซึ่งยังคงไม่ได้รับคำตอบ (ประเด็นสิทธิมนุษยชนใน ซาอุดิอาระเบีย) พรีเมียร์ลีก กำลังทำให้องค์กรของพวกเขาเองต้องตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งชุบตัวสำหรับบุคคลที่อยากใช้ความหรูหรา ฟูฟ่าของฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ปกปิดพฤติกรรมที่ไร้จริยธรรมซึ่งได้ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ"

ทั้งนี้ แอมเนสตี้ เป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ได้โจมตีประเด็นดังกล่าวของ ซาอุดิอาระเบีย มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะสิทธิสตรี และการปฎิบัติต่อกลุ่มเพศทางเลือก LGBTQ รวมไปถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

บิน ซาลมาน ตกเป็นหนึ่งในเป้าสงสัยกรณีการเสียชีวิตของ จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวที่ผลิตเนื้อหาโจมตีรัฐบาลและราชวงศ์ในสถานทูตของ ซาอุดิอาระเบีย ที่ประเทศ ตุรกี เมื่อปี 2018 นอกจากนี้แถลงการณ์ของ แอมเนสตี้ ยังระบุว่า ซาอุฯ​ พยายามที่จะใช้การกีฬาปิดภาพลักษณ์อันเป็นลบด้วยการลงทุนในทีมระดับท็อป รวมไปถึงการจัดแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับโลก