ชำแหละเส้นทางลุ้นแชมป์ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ในซีซั่นนี้

สองแข้งดาวรุ่งฟอร์มฮอต จาดอน ซานโช และเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ผนึกกำลังกันอย่างยอดเยี่ยมพาทีม “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงบนตารางลีก หายใจรดต้นคอ “แชมป์เก่า” อย่างบาเยิร์น มิวนิค อยู่ในขณะนี้ ถือเป็นอีกฤดูกาลที่พลพรรค “เสือเหลือง” ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ลีกมากๆ อีกครั้ง มาดูกันว่าเส้นทางสู่การลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2019/20 ของทีมดอร์ทมุนด์มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
เสริมทัพอย่างไรบ้าง?
หลังจากจบฤดูกาล 2018/19 ด้วยตำแหน่งรองแชมป์โดยมีแต้มตามหลังบาเยิร์นแชมป์เก่าไปเพียงแค่ 2 คะแนน ดอร์ทมุนด์ก็เดินหน้าเสริมทัพกันให้วุ่นในช่วงเปิดตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ก่อนเปิดฤดูกาล พวกเขาดึงตัวมัตส์ ฮุมเมิลส์ จากบาเยิร์นกลับมาเล่นในถิ่นเก่า และเสริมตัวเลือกผู้เล่นให้มากขึ้นด้วยการคว้าตัวแข้งฝีเท้าดีอย่างนิโค ชูลซ์ ตอร์กาน อาซาร์ และยูเลียน บรันด์ ส่วนการคว้าตัวปาโก้ อัลกาเซร์ ก็ดูท่าจะเกิดขึ้นจริงเมื่อศูนย์หน้าจากสเปนโชว์ฟอร์มได้สวยหรูในซีซั่นก่อน แต่ทว่าการมาขอเจ้าหนูฮาแลนด์ในช่วงต้นปีกลับทำให้อัลกาเซร์หมดอนาคตไปซะอย่างนั้น แต่ก็ทำให้แนวรุกของดอร์ทมุนด์แข็งแกร่งดุดันมากขึ้นไปอีก ส่วนคนสุดท้ายที่ย้ายเข้ามายังถ้ำ “เสือเหลือง” ก็คือเอ็มเร่ ชาน มิดฟิลด์ฝีเท้าดีที่ย้ายมาจากยูเวนตุส
สิ่งที่พลพรรคเสือเหลืองคาดหวัง
แม้จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ แต่ก็ถือว่าดอร์ทมุนด์ทำผลงานได้น่าประทับใจในซีซั่นก่อน พวกเขาไล่บี้บาเยิร์นจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล หลายคนอาจสงสัยว่าดอร์ทมุนด์จะไปได้ไกลกว่านี้จริงไหม ซึ่งเมื่อดูจากการเสริมทัพของ “เสือเหลือง” ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วก็เหมือนเป็นเสียงคำรามลั่นทุ่งจากรั้วซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ว่า “ข้าจะทำให้ได้!” จากนั้นพวกเขาก็ทำผลงานในเกมอุ่นเครื่องในช่วงปรีซีซํ่นได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเอาชนะทีมแชมป์ยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก ครั้งล่าสุดอย่างลิเวอร์พูล ได้ แถมยังยิงประตูในแมตช์อุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลไปถึง 30 ลูก และการคว้าชัยเหนือบาเยิร์น 2-0 ประตูในศึกซูเปอร์คัพ ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเขาพร้อมแล้วจริงๆ กับภารกิจโค่นบัลลังก์แชมป์ แต่กระนั้นลูเซียง ฟาฟร์ ก็ยังไม่แฮปปี้กับฟอร์มของลูกทีมมากนัก โดยให้เหตุผลว่าทีมชุดนี้เล่นเกมรุกได้ดี แต่ยังมีจุดอ่อนในเกมรับซึ่งต้องมาหาจุดสมดุลกันต่อไป
ผลงานโดยรวมในฤดูกาลนี้
ช่วงต้นฤดูกาลถือว่าดอร์ทมุนด์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หากไม่นับเกมที่ดันไปพลาดท่าพ่ายทีมน้องใหม่บุนเดสลีกาอย่างอูนิโอน เบอร์ลิน ในแมตช์เดย์ 3 ทำให้ลูกทีมของฟาฟร์ต้องใช้เวลาดึงสติกันพอสมควร แม้ในเกมถัดมาพวกเขาจะถล่มไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไปได้ 4-0 ประตูและไม่แพ้ติดต่อกันถึง 7 เกม แต่ก็เสมอกับคู่แข่งทำแต้มหลุดมือไปไม่น้อย หล่นลงไปอยู่ถึงอันดับ 8 ของตาราง
การพ่ายแพ้ต่อบาเยิร์นไปด้วยสกอร์ 4-0 ในศึกแดร์คลาสสิกเคอร์ เสมอกับแอร์เบ ไลป์ซิก 3-3 และพ่ายให้กับฮอฟเฟนไฮม์ 2-1 ประตูทำให้ดอร์ทมุนด์ทะยานไปไม่ถึงหัวตารางในช่วงก่อนเบรคฤดูหนาว พวกเขารั้งอันดับ 4 มีแต้มตามทีมจ่าฝูงอยู่ 7 คะแนนซึ่งดูแล้วเหนื่อยไม่น้อยกับภารกิจลุ้นแชมป์
และแล้วซานต้าก็มาโปรดทีม “เสือเหลือง” เมื่อพวกเขาได้ตัวเจ้าฮาแลนด์ ดาวยิงหนุ่มจากนอร์เวย์มาเสริมทัพหลังปีใหม่ การมาของฮาแลนด์พลิกสถานการณ์ให้ดอร์ทมุนด์ได้ทันที เขายิงประตูทุบสถิติบุนเดสลีกาเป็นว่าเล่น ดอร์ทมุนด์คว้าชัยชนะได้ถึง 7 จาก 8 เกมนับตั้งแต่เริ่มปีใหม่ โดยพลาดท่าพ่ายให้กับเลเวอร์คูเซน 4-3 ประตูเพียงเกมเดียวเท่านั้น ทำให้ดอร์ทมุนด์กลับมามีลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวทั้งๆ ที่กัปตันมาร์โค รอยส์ เจ็บจนหมดสิทธิ์ลงสนามใน 5 เกมหลังสุดด้วยซ้ำ
ศึกที่อาจจะชี้ชะตาแชมป์ของดอร์ทมุนด์ก็คือ 3 เกมสำคัญกับชาลเค่อในเรเวียร์ดาร์บี้ เกมกับบาเยิร์นในแมตช์เดย์ 28 และกับไลป์ซิกในแมตช์เดย์ 33 ซึ่งถ้าดอร์ทมุนด์ทำผลงานใน 3 นัดนี้ได้ตามเป้า รับรองว่าพลพรรค “เสือใต้” คงตกที่นั่งลำบากแน่นอน
คีย์แมน
ขุนพลนักเตะ “เสือเหลือง” โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอยู่หลายคน แต่คนที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าหนูจาดอน ซานโช ดาวรุ่งจากเกาะอังกฤษที่ระเบิดฟอร์มต่อเนื่องมาตั้งแต่ซีซั่นก่อนและยิงไปแล้ว 14 ประตูในซีซั่นนี้ เป็นรองเพียงโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และติโม แวร์เนอร์ นอกจากนี้ซานโชยังจ่ายแอสซิสต์ไปถึง 15 ครั้ง ตามหลังแค่โทมัส มึลเลอร์ เท่านั้น ซึ่งไม่ว่ายังไงแล้ว ซานโชก็เป็นผู้เล่นที่มีส่วนในการทำประตูมากที่สุดในบุนเดสลีกา
แมตช์ที่ดีที่สุด
ว่ากันว่าจะส่องฟอร์มของทีมไหนก็ให้ดูกันในเกมล่าสุด ซึ่งนัดล่าสุดที่ดอร์ทมุนด์ลงเล่นคือแมตช์เดย์ 25 พบกับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค อีกหนึ่งทีมมาแรงแห่งซีซั่นนี้ที่ล้มทีม “เสือใต้” มาแล้ว หากดอร์ทมุนด์พ่ายในเกมนี้ความหวังในการลุ้นแชมป์ก็คงจะริบหรี่เหลือเกิน ซึ่งสุดท้ายแล้วขุนพล “เสือเหลือง” ก็ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจัดการกับความกดดันในเกมบิ๊กแมตช์ได้ ดอร์ทมุนด์เป็นฝ่ายคว้าชัยและกระโดดขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงได้สำเร็จ ทำให้ความหวังในการลุ้นแชมป์ลีกเปิดกว้างอีกครั้ง
บิ๊กเซอร์ไพรส์
ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆ เจ้าหนูวัย 19 ปีคนหนึ่งจะเดินเข้ามาในรั้วทีม “เสือเหลือง” แล้วยิงไปถึง 7 ประตูได้ใน 3 เกมแรกที่ลงสนาม ฮาแลนด์กดแฮตทริกได้ในเกมแรกทันทีที่ประเดิมศึกบุนเดสลีกา แถมยังเป็นการลงมายิงในฐานะตัวสำรองในช่วงครึ่งหลังอีกต่างหาก เด็กโหดจากนอร์เวย์คนนี้จะมีส่วนสำคัญในการพาดอร์ทมุนด์ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน