เดือดทุกแมตช์! 10 สุดยอดเกมบุนเดสลีกาแห่งซีซั่น 2019/20

เดือดทุกแมตช์! 10 สุดยอดเกมบุนเดสลีกาแห่งซีซั่น 2019/20

เดือดทุกแมตช์! 10 สุดยอดเกมบุนเดสลีกาแห่งซีซั่น 2019/20
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อย่างที่รู้กันดีว่าบุนเดสลีกามีอันต้องระงับการแข่งขันไว้ชั่วคราวจากพิษของโคโรนาไวรัส ว่างๆ แบบนี้จึงอยากลองเฟ้นหา 10 เกมสุดมันประจำฤดูกาลนี้มาพูดถึงกันสักหน่อยว่ามีอะไรที่น่าจดจำอีกบ้าง นอกเหนือไปจากผลงานสุดร้อนแรงของเหล่าสตาร์อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, เออร์ลิง ฮาแลนด์ หรือ ลีออน เบลีย์ มาดูกันเลย

บาเยิร์น มิวนิค 4-0 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (แมตช์เดย์ 11)
1

เป็นเกมที่ฮันซี่ ฟลิค ได้ประเดิมคุมทีมบาเยิร์นในฐานะเฮดโค้ชเป็นครั้งแรก และขุนพลนักเตะ "เสือใต้" ก็ไม่ทำให้ฟลิคผิดหวัง เมื่อเลวานดอฟสกี อดีตแข้ง "เสือเหลือง" กดประตูทีมเก่าของตัวเองได้ 2 ตุง ทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ยิงได้ครบทั้ง 11 แมตช์เดย์แรก เป็นคนแรกที่ยิงได้ถึง 11 นัดติดต่อกัน แถมยังเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ถึง 16 ประตูหลังจบ 11 นัดแรกของฤดูกาลอีกด้วย

เอาก์สบวร์ก 3-5 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (แมตช์เดย์ 18)
2

การประเดิมสนามครั้งแรกของฟลิคกับบาเยิร์นก็ว่ายอดเยี่ยมแล้ว แต่คนนี้สิเยี่ยมกว่า เจ้าหนู เออร์ลิง ฮาแลนด์ วัย 19 ปี ประเดิมสนามด้วยการถูกเปลี่ยนลงมาจากม้านั่งสำรอง ก่อนใช้เวลาเพียง 17 นาทีซัดแฮตทริกแรกให้ดอร์ทมุนด์ได้ทันที พยายามยิง 3 ครั้ง เข้าทั้ง 3 ลูก จารึกสถิติบุนเดสลีกาด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่ทำแฮตทริกได้ และยังเป็นนักเตะคนแรกที่ประเดิมสนามในฐานะผู้เล่นสำรองแล้วทำแฮตทริกได้อีกด้วย

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 4-3 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (แมตช์เดย์ 21)
3

ถึงแม้เจ้าหนูฮาแลนด์จะไม่ได้ยิงในนัดนี้ แต่ที่สนามเบย์อารีนา ทีม "ห้างขายยา" กับ "เสือเหลือง" ก็ยิงกันระเบิดรวมถึง 7 ลูก โดย เอ็มเร ชาน อดีตนักเตะเลเวอร์คูเซนยิงให้ดอร์ทมุนด์พลิกกลับมานำทีมเก่า 2-1 ก่อนที่ เควิน โฟลลันด์ จะบวกประตูที่สองให้ทีม "ห้างขายยา" ตามตีเสมอ จากนั้นลูกยิงของ ราฟาเอล เกร์เรโร น่าจะเป็นประตูชัยให้ทัพ "เสือเหลือง" ชนะไปแล้ว แต่เจ้าถิ่นกลับทำสองประตูรวดจาก เบลีย์ และ ลาร์ส เบนเดอร์ พลิกขย้ำ "เสือเหลือง" ไปอย่างสุดตื่นเต้น

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-3 แอร์เบ ไลป์ซิก (แมตช์เดย์ 16)
4

ดอร์ทมุนด์เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนถึงสองประตูจาก ยูเลียน ไวเกิล และ ยูเลียน บรันด์ท แต่ไลป์ซิกที่นำจ่าฝูงอยู่ในตอนนั้นไม่ยอมง่ายๆ มาได้ 2 ประตูจาก ทิโม แวร์เนอร์ ในช่วงครึ่งหลังตีเสมอได้สำเร็จ จากนั้น จาดอน ซานโช ยิงให้ทีม "เสือเหลือง" ออกนำอีกครั้ง แต่ทว่าไลป์ซิกมาได้ พาทริค ชิค เปลี่ยนตัวลงมาเป็นซูเปอร์ซับยิงตีเสมอช่วยชีวิตพลพรรค "กระทิงแดง" ไว้ได้

ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 5-1 บาเยิร์น มิวนิค (แมตช์เดย์ 10)
5

นิโก โควัช พาทีม "เสือใต้" กลับไปเยือนถิ่นเก่า เริ่มเกมได้ไม่นาน เชโรม บัวเต็ง ดันพลาดท่าโดนใบแดงตั้งแต่นาทีที่ 9 ของการแข่งขัน จากนั้นทีม "อินทรีแดง-ดำ" ก็พากันกระหน่ำแชมป์เก่าแบบสนุกเท้า แม้เลวานดอฟสกีจะยิงกู้หน้ามาได้ 1 ลูก แต่นั่นก็เป็นความพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุดของโควัชที่ต้องแลกด้วยตำแหน่งโค้ชในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า เลยทีเดียว

บาเยิร์น มิวนิค 6-1 แวร์เดอร์ เบรเมน (แมตช์เดย์ 15)
6

ก่อนเกมนี้ บาเยิร์น มิวนิค อยู่ในสถานการณ์ที่กำลังไล่ล่าตำแหน่งจ่าฝูงช่วงวินเทอร์เบรค แต่เป็นเบรเมนที่ออกนำแชมป์เก่าไปได้ก่อนจาก ไมล็อต ราซิตซา ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ซึ่งนั่นกลับเป็นการกระตุกหนวดเสือใต้ให้ตื่นขึ้นมาล่าเหยื่ออย่างเมามัน ฟิลิปเป คูตินโญ เพลย์เมกเกอร์ที่ยืมตัวมาจากบาร์เซโลนา กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนเกมรุกของบาเยิร์นด้วยการยิงแฮตทริกรวมทั้งจ่ายสองแอสซิสต์พาทีมเก็บสามแต้มด้วยสกอร์ท่วมท้น และยังเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในการลงสนาม 90 นาทีอีกด้วย

แอร์เบ ไลป์ซิก 1-3 ชาลเก้ (แมตช์เดย์ 6)
7

นับเป็นจุดสูงสุดของนักเตะอย่าง อามีน ฮาริต แข้งทีมชาติโมร็อคโคที่โชว์ฟอร์มยิงหนึ่งจ่ายหนึ่งช่วยให้ชาลเก้สอนมวยเกมสวนกลับให้กับไลป์ซิก นอกจากนี้ยังมีนักเตะดาวรุ่งอย่าง แรบบี มาทอนโด ที่เบิกประตูแรกในบุนเดสลีกาให้ตัวเองได้สำเร็จ ยัดเยียดความปราชัยหนแรกให้กับ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ในฐานะโค้ชของทีมไลป์ซิก

อูนิโอน เบอร์ลิน 3-1 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (แมตช์เดย์ 3)
8

เกมสุดช็อกที่ใครก็คาดไม่ถึงว่าผลสกอร์จะออกมาเป็นแบบนี้ เมื่อน้องใหม่บุนเดสลีกาอย่างอูนิโอน นั้นสามารถจัดการทีมเสือเหลืองได้อยู่หมัด สองประตูจาก มาริอุส บุลเทอร์ และลูกยิงปิดกล่องจาก เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน ช่วยให้ทีมจากเบอร์ลินตะวันออกเก็บชัยชนะนัดแรกในประวัติศาสตร์การลงแข่งในลีกสูงสุดของเยอรมนีได้สำเร็จ

บาเยิร์น มิวนิค 1-2 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (แมตช์เดย์ 13)
9

ฮันซี่ ฟลิค ออกสตาร์ทกับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมบาเยิร์นได้อย่างสวยหรู เก็บชัยชนะได้ทั้ง 4 เกมใน 4 เกมแรก แถมยิงได้ 16 ลูกและไม่เสียประตูเลย แต่ฟุตบอลลูกกลมๆนั้นไม่มีอะไรแน่นอน ลูคัส ราเด็ดกี ผู้รักษาประตูทีมชาติฟินแลนด์ออกแรงเซฟลูกยิงไปถึง 10 หน ส่วน ลีออน เบลีย์ กองหน้าตัวเก่งของทีม "ห้างขายยา" เหมาคนเดียว 2 ประตูพาทีมเก็บ 3 แต้มสำเร็จ ทั้งๆที่ทำคอนแทคเลนส์หล่นหาย 1 ข้างก่อนการแข่งขัน!

แอร์เบ ไลป์ซิก 8-0 ไมนซ์ (แมตช์เดย์ 10)
10

ยูเลียน นาเกลส์มันน์ พาลูกทีมเก็บชัยชนะที่ถล่มทลายที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการกระหน่ำยิงใส่ไมนซ์ในครึ่งแรกถึง 5 ประตู ตามด้วยอีก 3 ประตูในครึ่งหลัง นัดนี้ ทิโม แวร์เนอร์ ยังสามารถระเบิดฟอร์มสุดยอด ทำแฮตทริกทั้งในการยิงประตูและการจ่ายแอสซิสต์ ส่งผลให้เขาเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่มีส่วนกับ 6 ประตูในเกมเดียวนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติเมื่อฤดูกาล 1992/93

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook