"รามี่ เบนเซไบนี่" ชายผู้พาสิงห์หนุ่มพิชิตเสือใต้

"รามี่ เบนเซไบนี่" ชายผู้พาสิงห์หนุ่มพิชิตเสือใต้

"รามี่ เบนเซไบนี่" ชายผู้พาสิงห์หนุ่มพิชิตเสือใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปีนี้ถือเป็นปีทองของรามี่ เบนเซไบนี่ แบ็คซ้ายเลือดแอลจีเรียแห่งโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค ที่สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับต้นสังกัด แถมยังมีบทบาทสำคัญช่วยให้ทีมคว้าชัยเหนือบาเยิร์น มิวนิค ในเกมลีกนัดล่าสุดได้อีกด้วย

bensebaini-motmd

แข้งวัย 24 ปีเพิ่งจะกดสองประตูในนัดเดียวเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้ง พาทีมคว้าชัยเหนือบาเยิร์นเป็นหนที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2015 หลังโขกลูกเตะมุมของโยนาส โฮฟมันน์ เข้าไป ก่อนที่เบนเซไบนี่จะสังหารจุดโทษในช่วงทดเวลาเข้าไปอีก ส่งผลให้ทีม "สิงห์หนุ่ม" ผงาดแซงแอร์เบ ไลป์ซิก หนึ่งแต้ม กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงพร้อมทั้งทิ้งห่างบาเยิร์นถึง 7 แต้มเข้าไปแล้ว

"เรามีความสุขกันมากจริงๆ มันไม่ง่ายเลย แต่เราก็แฮปปี้ที่เอาชนะและสามารถโชว์ฟอร์มแกร่งได้ หลังเกมที่แล้วมีการตกลงกันว่าบรีล เอ็มโบโล่ จะไม่รับหน้าที่ยิงจุดโทษคราวต่อไป ผมจึงบอกออกมาว่าผมจะรับหน้าที่นั้นเอง แต่ตอนที่ได้จุดโทษผมกลับลืมเรื่องนี้ไปซะงั้น! โทเบียส ซิพเพล ต้องตะโกนเตือนผมจากข้างสนาม ทุกคนแฮปปี้และเราก็ยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ทุกอย่างมันดีไปหมด"

untitled-1

เบนเซไบนี่เริ่มมีบทบาทในทีมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาติดธงทีมชาติแอลจีเรียมาแล้ว 30 ครั้งและเพิ่งย้ายจากสโมสรแรนส์ในลีกเอิงมาอยู่กับกลัดบัคเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงต้นฤดูกาลเบนเซไบนี่เป็นเพียงแค่ตัวสำรองที่ไม่ได้ถูกใช้งานในหกจากเก้าเกมแรก

เบนเซไบนี่มาแผลงฤทธิ์ในแมตช์เดย์ 11 ที่กลัดบัคลงฟาดแข้งกับแวร์เดอร์ เบรเมน เขาทำประตูได้จากการโขกลูกฟรีคิกของลาสซ์โล เบเนส แถมยังโชว์ความทุ่มเทเกินร้อยด้วยการไล่สกัดลีโอนาร์โด บิทเทนคอร์ท จนโดนใบเหลืองที่สองต้องออกไปอาบน้ำก่อนเพื่อน

หลังถูกแบนไปหนึ่งเกม เบนเซไบนี่ก็กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง และเขาก็สามารถช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะด้วยการจ่ายหนึ่งแอสซิสต์ให้มาร์คัส ตูราม แถมยังเข้าสกัดจังหวะอันตรายของคู่แข่งได้อีกหลายครั้ง รวมแล้วกลัดบัคสามารถเก็บชัยชนะได้ตลอดห้านัดที่เบนเซไบนี่ลงสนาม ทำให้ความหวังในการกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้งของพลพรรคสิงห์หนุ่มนับตั้งแต่ปี 1977 นั้นสว่างสดใสขึ้นไปอีก

"พวกเราขยันซ้อมหนักทุกวันกว่าจะโชว์ฟอร์มได้เช่นนี้ เราพยายามที่จะแข็งแกร่งในแนวรับและรุกให้มีประสิทธิภาพ และเราก็สามารถทำมันได้อีกครั้งในวันนี้ เสียให้บาเยิร์นเพียงประตูเดียวก็ถือว่าไม่เลว แต่ยิงพวกเขาได้สองลูกนี่สิที่สุดยอดกว่า!"

ei86qkbxuaafadf-large

เบนเซไบนี่เดินทางมาไกลโพ้นจากหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ประเทศแอลจีเรีย เขาเริ่มต้นชีวิตนักกีฬาด้วยการหัดเล่นกีฬาคาราเต้ก่อน แต่สายเลือดนักฟุตบอลที่วิ่งพล่านอยู่ในตัวทำให้แพสชั่นในกีฬาลูกหนังเริ่มค่อยๆ เบ่งบานขึ้น เพราะซาลาห์ ฮันชี่ คุณตาของเขาก็คืออดีตผู้รักษาประตูทีมชาติแอลจีเรียนั่นเอง

"ผมเตะฟุตบอลในบ้านเสมอ ทำทุกอย่างพังหมด ทั้งแจกัน กรอบรูป พ่อแม่เคยเอือมระอาผมมาก! ผมรักฟุตบอลมาก ทันทีที่อาทิตย์ตก ผมจะกลับบ้านมาพร้อมลูกฟุตบอลและเล่นอยู่ในบ้าน" เบนเซไบนี่กล่าว

เขาเริ่มต้นเส้นทางนักเตะอาชีพเมื่ออายุได้เพียง 12 ปีในเมืองหลวงของแอลจีเรีย โดยเข้าร่วมอะคาเดมี่ฟุตบอลสำหรับเยาวชนซึ่งถูกสอนให้เล่นฟุตบอลด้วยเท่าเปล่าถึงสามปี! เพื่อให้สามารถรับรู้ถึงสัมผัสและควบคุมลูกฟุตบอลได้ดี ในปี 2012 เบนเซไบนี่ได้เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับหกสโมสรใหญ่ในยุโรปรวมถึงอาร์เซนอลและเอฟซี ปอร์โต้ แม้อาร์เซน เวนเกอร์ จะสนใจคว้าตัวเขามาร่วมทีม "ปืนใหญ่" แต่โชคร้ายที่เบนเซไบนี่ติดปัญหาเรื่องพาสปอร์ตจนถูกล้มเลิกดีลนั้นไป

เบนเซไบนี่จึงไปเริ่มเส้นทางนักเตะอาชีพกับทีมเล็กๆ ในประเทศเบลเยี่ยมก่อนต้องเดินทางกลับมาที่บ้านเกิด แต่แล้วเขาก็ถูกทีมมงต์เปลลิเย่ร์ยืมตัวไปเล่นในลีกเอิง และได้บ่มเพาะฝีเท้าในประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ที่สโมสรแห่งนี้เขาถูกจับมาเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายซึ่งกลายมาเป็นตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวจนทุกวันนี้ เบนเซไบนี่ได้รับยกย่องว่ามีลักษณะการเล่นฟุตบอลที่คล้ายคลึงกับนักเตะระดับตำนานอย่างเซเนอดีน ซีดาน และเซร์คิโอ รามอส แม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในช่วงแรก แต่เขาก็สามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จเมื่อตอนที่ย้ายไปค้าแข้งกับทีมแรนส์

"รามี่คือนักเตะคุณภาพของจริง เขามีเทคนิคอันสุดยอดและฉลาดในการเล่นอย่างแท้จริง แถมยังมีราศีและมีความมั่นใจอีกด้วย เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน เขาคือนักเตะยอดเยี่ยมคนนึงที่เราค้นพบ" คริสติยอง กูร์กกุฟฟ์ อดีตกุนซือของแรนส์กล่าว

แม้เบนเซไบนี่จะยังติดๆ ขัดๆ อยู่ในช่วงฤดูกาลแรกกับแรนส์จากการโดนทดลองเล่นหลายตำแหน่งและอาการบาดเจ็บประปราย แต่ในฤดูกาลต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนโค้ช นักเตะก็พากันทำผลงานได้ดีจนทีมผงาดขึ้นมาจบอันดับที่ 5 คว้าตั๋วลุยศึกยูโรปาลีก แถมเบนเซไบนี่ก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้สำเร็จ

ในฤดูกาล 2018/19 ถือเป็นฤดูกาลที่เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก เมื่อสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลเฟร้นช์ คัพ ด้วยการสยบทีมยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศสอย่างเปแอสเช โดยเบนเซไบนี่เป็นผู้สังหารจุดโทษชี้ขาดเข้าไปในนัดชิงชนะเลิศ นอกจากนี้เขายังยิงประตูชัยให้ทีมโค่นลียงในเกมนัดรองชนะเลิศได้อีกด้วย

gettyimages-1139729066

สำหรับการเล่นในระดับทีมชาติ เบนเซไบนี่ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เมื่อช่วยให้ทีมชาติแอลจีเรียคว้าแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชั่นส์ที่ประเทศอียิปต์ได้สำเร็จ

alg_bensebaini

ด้วยพรสวรรค์และฝีเท้าอันยอดเยี่ยม ทำให้เบนเซไบนี่กำลังกลายเป็นนักเตะที่จะถูกจับตาเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาต่อจากนี้ ใครจะรู้ว่าต่อจากสองแชมป์ที่เพิ่งจะคว้าไปได้หมาดๆ เบนเซไบนี่อาจคว้าเหรียญรางวัลแชมป์ลีกเยอรมันไปประดับตู้โชว์ที่บ้านได้เร็วกว่าที่เขาคาดคิดไว้ซะอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook