แขกไม่ได้รับเชิญของ "ไบสัน เดเล่" นักบาสแชมป์ NBA ที่โดนฆ่ากลางมหาสมุทร

หลังจากจบเกม NBA นัดชิงชนะเลิศปี 1997 ชิคาโก้ บูลส์ สามารถเอาชนะ ยูท่าห์ แจ๊ซ ไปได้ภายใต้การฉายแสงของ "ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" อย่าง ไมเคิล จอร์แดน ที่กลายเป็น MVP รอบไฟนอลส์ในปีนั้น

ระหว่างที่ จอร์แดน เดินถือถ้วยแชมป์ฉลองอย่างยิ่งใหญ่และเป็นเป้าโฟกัสของทุกสายตา ด้านข้างของเขามีผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์คนหนึ่งที่แทบกลายเป็นตัวประกอบผู้อยู่เบื้องหลัง นั่นคือ "ไบสัน เดเล่"

 

การไร้ตัวตนในทีมระดับตำนานถือเป็นเรื่องปกติที่มีให้เห็นในทุกวงการ ดังนั้นเรื่องนี้คงน่าไม่สนใจเท่ากับสิ่งที่ "ไบสัน" ต้องพบเจอในชีวิต จนทำให้เขาตาย ... ก่อนวัยอันควรภายใต้มหาสมุทรที่จับมือใครดมไม่ได้

คนประหลาด ไบรอัน วิลเลี่ยมส์

เดิมทีชื่อที่แสนดุดันอย่าง "ไอ้วัวกระทิง" หรือ ไบสัน นั้นไม่ใช่ชื่อแท้ๆ ของเขา ไบรอัน วิลเลี่ยมส์ ต่างหากคือชื่อของเขาในตอนเกิด 

 

ไบรอัน สูง 6 ฟุต 10 นิ้ว หรือ 208 เซนติเมตร ตั้งแต่เรียนไฮสคูลที่โรงเรียน ซานตา โมนิก้า แคธอลิก รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนจะกลายเป็นตัวหลักของมหาวิทยาลัยแอริโซน่า และแมรี่แลนด์ (ย้ายที่เรียนหลังเล่นให้ ม.แอริโซน่า 1 ปี) แถมยังเคยเป็นรุกกี้ออฟเดอะเยียร์ของโซน ACC อีกด้วย

นอกจากจะเก่งกาจเรื่องบาสเกตบอลแล้ว ไบรอัน วิลเลี่ยมส์ ยังเอาดีทางด้านการเรียนในเวลาเดียวกัน เขาได้รับเกียรตินิยมในช่วงที่เรียนระดับมหาวิทยาลัย ก่อนจะโดน ออร์แลนโด้ แมจิก ดราฟต์ไปเป็นลำดับที่ 10 ในปี 1991 

ผลงานใน NBA ของ ไบรอัน ไม่ค่อยเป็นใจ 3 ปีแรกกับ แมจิก เขาได้ลงจำกัดจำเขี่ยมาก จนโดนเทรดไปให้ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ทว่าหลังจากโดนเทรดอีกครั้งไปอยู่กับ ลอส แอนเจลิส คลิปเปอร์ส ทุกคนจึงได้รู้ว่าเขามีดี 

ไบรอัน ทำคะแนนเฉลี่ยเกมละ 15.8 คะแนน และผลงานในฐานะตัวรุกจัดว่าโหดเข้าขั้น นั่นจึงทำให้ลองต่อรองกับสโมสรเพื่อขอขึ้่นค่าเหนื่อยก่อนที่สัญญาจะหมดลง ซึ่งทางคลิปเปอร์ส ส่ายหัวและบอกว่า "ไม่" เพราะข้อเสนอที่ ไบรอัน ขอมานั้นมากเงินไป ส่วน ไบรอัน ก็ยืนยันเสียงแข็งว่าค่าแรงที่เขาอยากได้คือเท่าที่เสนอไป ไม่ต้องการให้ลดลงแม้แต่แดงเดียว ถ้าไม่มีใครเอาเขาก็พร้อมจะเป็นฟรีเอเย่นต์ 

การตัดสินใจครั้งนั้นเกือบกลายเป็นฝันร้าย เมื่อไม่มีทีมไหนเซ็นสัญญาเขาเข้าทีมในฤดูกาล 1996-97 กระทั่งได้โอกาสจากทีมแชมป์เก่าอย่าง ชิคาโก้ บูลส์ ที่ต้องการใครสักคนมาเป็นแบ็คอัพของ เดนิส ร็อดแมน 

ไบรอัน วิลเลี่ยมส์ กลายเป็นกุญแจที่ ฟิล แจ็คสัน เลือกถูกจุด หลังจากเซ็นเขาเข้ามาร่วมทีมในช่วง 9 เกมสุดท้ายก่อนเข้ารอบเพลย์ออฟ ตัวของ ไบรอัน ทำคะแนนเฉลี่ย 6.1 คะแนน และ 3.7 รีบาวด์ ต่อเกม รวมถึงลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศครบทั้งหมด 6 นัด และพาทีมคว้าแชมป์อีกด้วย 

 

สิ่งที่น่าแปลกคือ ไบรอัน วิลเลี่ยมส์ ดูจะเป็นนักบาสที่พยายามเรียกค่าแรงสูงตลอด และยิ่งเมื่อพ่วงดีกรีแชมป์มันยิ่งทำให้เขาทำได้ดั่งใจโดยการย้ายไปอยู่กับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ ด้วยสัญญา 7 ปี มูลค่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว 

ปกติแล้ว ไบรอัน วิลเลี่ยมส์ ไม่ใช่คนแบบนั้น... เขามักไม่ใช่คนที่นิยมเรื่องเงินๆ ทองๆ สักเท่าไหร่ ว่ากันว่าเมื่อเข้าไปอยู่ในระบบเอเย่นต์แล้ว ดีลต่างๆ ถูกดำเนินการโดยที่เขาเองก็แทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ 

ข้อเสนอก้อนโตจาก พิสตันส์ ทำให้ตัวเขาเองไม่ค่อยสบายใจนัก ว่ากันว่าเขาบอกให้สโมสรนำเงินเดือนของเขาที่ได้รับไปแบ่งให้กับพนักงานส่วนอื่นๆ ของสโมสร ไล่ตั้งแต่พนักงานทำความสะอาดไปจนถึงบอลบอยเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น "ไบสัน เดเล่" เพื่อเป็นเกียรติให้กับตระกูลที่ตั้งต้นมาจากชาวอเมริกันพื้นเมือง เผ่าเชอโรกี และชาวแอฟริกันที่เป็นทาส

 

ขณะที่คนอื่นๆ พยายามเล่นให้เก่งขึ้นเล่นให้ดีขึ้นเพื่อคว้ารายได้ที่มากกว่าเดิม แต่สำหรับ ไบสัน นั้นแปลกกว่าปกติ ช่วงเวลาที่เล่นให้กับ พิสตันส์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้เงินค่าจ้างมากที่สุด กลับเป็นช่วงเวลาที่เขาเพี้ยนที่สุดเช่นกัน ... เงินคือสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปจริงหรือ? และถ้าไม่ใช่มันคืออะไรกันแน่ 

เพื่อนร่วมทีมพิสตันส์เริ่มเห็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติของเขา ครั้งหนึ่งระหว่างทีมต้องนั่งเครื่องบินเพื่อไปแข่งเกมเยือนอยู่ดีๆ ไบสัน ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปที่ประตูฉุกเฉินของเครื่อง และพยายามจะเปิดมันออกจนคนอื่นๆ ต้องมาห้ามกันให้วุ่น นอกจากนี้ยังมีการเปรยให้เห็นถึงความเบื่อหน่ายของชีวิตว่าอยากจะตายไปให้พ้นๆ ซึ่งปกติเขาไม่เคยแสดงอาการแบบนี้มาก่อนเลย

น่าสงสาร

ปัญหาที่นักกีฬาดังระดับโลกหลายคนพบเจอนั้นส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินหรือเรื่องพฤติกรรมนอกสนาม ทว่าสำหรับ ไบสัน นั้นมันลึกซึ่งมากกว่านั้น นั่นคือเรื่องปัญหาครอบครัว และมันทำให้เขาเบื่อกับการมีชีวิตอยู่

 

นับตั้งแต่เริ่มมีเงินมีทอง ไบสัน นั้นต้องกลายเป็นเหมือนตู้ ATM ของคนในครอบครัว เขาต้องเสียเงินก้อนโตให้แม่และน้องๆ อยู่เรื่อย ยิ่งมีเงินเยอะที่บ้านก็เริ่มใช้เงินหนักมือขึ้น

เขาพยายามจะสร้างระยะห่างจากครอบครัวเหมือนกัน ทว่ามันก็เป็นไปได้ยาก เขาซื้อบ้านให้กับแม่ รวมถึงเสียเงินถึงราว 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อส่งผู้บังเกิดเกล้าให้เรียนจบมหาวิทยาลัย (ทว่าแม่ของเขากลับปฏิเสธเรื่องดังกล่าว) นอกจากนั้น ยังต้องควักกระเป๋าจ่ายเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับพี่ชายที่ชื่อ เควิน ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ด้วยเหตุผลที่ไม่เปิดเผย ... แต่ที่ชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าที่สุด คือพ่อ ที่เลิกรากับแม่ไปตั้งแต่เขายังเด็ก

หลังจากหย่าร้าง ยูจีน พ่อของเขา กลายเป็นคนขับรถลิโม (รถหรูรับจ้างที่ไว้รับส่งคนมีฐานะ) รวมถึงนักร้องประจำเลาจ์นใน ลาส เวกัส แถมยังติดโคเคน แต่เมื่อเขาบากหน้าไปหาลูก ไบรอันก็ยอมจ่ายเงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อถอยรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ให้แบบที่หลายคนไม่อยากเชื่อ 

"ไอ้ไบรอันมันสุดยอดจริงๆ เขาทำให้พ่อต้องยืนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ขณะที่พ่อทำไงรู้ไหม เขาบอกว่า 'เฮ้ย ไอ้ลูกรัก วันหลังเอาเงินสดๆ มาให้ข้าก็ได้'" แพทริค เบิร์น เพื่อนซี้ของ ไบสัน เล่าไว้เช่นนั้น 

ไบสัน ถูกบดขยี้โดยคนภายในครอบครัว นี่คือสิ่งที่เพื่อนสนิทของเขาเล่าให้กับสื่ออย่าง Sports Illustrated ฟัง ...  และที่เขาเริ่มมีอาการเพี้ยนๆ ไม่เหมือนเดิม นั่นก็เพราะว่าเรื่องแบบนี้มันสะสมมานานแล้ว

"เรื่องพวกนี้หลอกหลอนเขา (ไบสัน) มานานแล้ว คุณรู้ไหมทำไมเขาถึงไม่ได้เกิดกับ แมจิก ทั้งๆ ที่เขาเป็นดราฟต์รอบแรกอันดับที่ 10 ... นั่นเพราะเขาไม่มีสติสตางค์อยู่กับตัว คืนหนึ่งเขาต้องกินยานอนหลับถึง 15 เม็ด และหลายคนไม่รู้ว่าเขาเบลอยาจนขับรถชนเสาข้างทางมาแล้ว ตอนนั้นเขาคร่ำครวญกับชีวิตที่ ออร์ลันโด้ แล้ว" เบิร์น เพื่อนซี้ของเขากล่าว

สิ่งที่ แพทริค เบิร์น บอก ถือว่าตรงตามนั้น เพราะมีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องการตรวจร่างกายและสภาพจิตใจในช่วงฤดูกาล 1992-93 และพบว่า ไบรอัน วิลเลี่ยมส์ หรือ ไบสัน เดเล่ เป็นโรคที่คล้ายๆ กับโรคซึมเศร้า 

และโรคนี้เหมือนบาป 2 คม คือเมื่อฟอร์มของเขาแย่และไม่ค่อยมีเงินมากมาย ครอบครัวก็ไม่ตามติดเขา ทว่าเมื่อเขากลับมาเล่นดีและมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็นว่าหนังม้วนเดิมเกิดขึ้นอีกตามฟอร์ม และเมื่อถึงวันที่สุดๆ เกินจะทนไหว ไบสัน เดเล่ ก็ประกาศเลิกเล่นบาสทันทีในปี 1999 ด้วยวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น

เงินทองทั้งหมดที่สะสมมาจากการเล่นบาสอาชีพ ไบสัน เดเล่ ไม่ได้เอาไปลงทุนเพื่ออนาคตใดๆ ทั้งสิ้น เขาเอาเงินจำนวน 650,000 เหรียญ ไปซื้อเรือมา 1 ลำ ด้วยความตั้งใจที่จะใช้มันออกเดินทางไปทั่วโลก ... และนั่นคือการเดินทางที่โลกต้องจดจำเขา

ปริศนาบนลำเรือ

แม้มีพาหนะที่พร้อมจะเดินทาง แต่ตัวของ ไบสัน ยังไม่พร้อม เขาต้องการใครสักคนที่รู้ใจ เขาติดต่อไปยัง เซเรน่า คาร์ลาน แฟนสาวของเขาเพื่อยืนยันให้รู้ว่าทริปนี้ต้องมีเธอ และหากเธอออกเดินทางกับเขาเธอจะได้พบกับโลกที่เธอไม่เคยได้สัมผัส

 

อย่างไรก็ตามสาวเจ้ามีความคิดที่ติดอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง เธอกำลังประสบปัญหาเงินช็อตขนาดหนัก เพราะเพิ่งตกงานมาหมาดๆ เธอจึงไม่อยากเสียเวลาไปเดินทางรอบโลกกับไบสัน 

ทว่าเมื่อรู้ข่าว เจ้าตัวรีบโทรบอกให้เธอมากินข้าวเย็นด้วยกันจากนั้นเขาเขียนเช็คเงินสดให้เธอ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้เธอเปล่าๆ เพื่อให้เธอหยุดทำงานและมานั่งเรือค้นหาชีวิตร่วมกับเขา และเรื่องก็จบทันที

เซเรน่า และ ไบสัน ออกเดินทางในวันที่ 6 กรกฎาคม 2002 โดยมีเป้าหมายไปยังเกาะตาฮิติ พวกเขาเล่าว่าเกิดมาเพิ่งเคยรู้สึกว่าตัวเบาสมองโล่งที่สุดก็ครั้งนี้ ไม่มีอดีตมากวนใจ ไร้อนาคตมากดดัน... คู่รักบนเรือที่ชื่อว่า "Hukuna Matata" ซึ่งเพี้ยนมาจาก "Hakuna Matata" ที่แปลว่า "ไม่ต้องกังวล" ประโยคเอกจากภาพยนตร์ The Lion King กำลังมีความสุขกับการลอยอยู่บนมหาสมุทรแบบที่เคยคาดหวังไว้ก่อนหน้านี้ 

จนกระทั่งเรือมาเทียบท่าที่นิวซีแลนด์ Hukuna Matata ที่มีไบสัน, เซเรน่า และ เบอร์ทรานด์ ซัลโด กัปตันเรือ ก็ได้ต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ นั่นคือ เควิน วิลเลี่ยมส์ พี่ชายของ ไบสัน เดเล่ คนเดียวกับที่ไบสันต้องเสียเงินเป็นแสนให้ในอดีต... ทันทีที่ เซเรน่า เห็นหน้า เธอโทรหา สเตซี่ย์ สตีล เพื่อนสนิทของเธอ และบอกเล่าบางสิ่ง

เพื่อนของ เซเรน่า เล่าในภายหลังว่า "นี่คือครั้งแรกที่เธอว่าร้ายกล่าวหาใครสักคนในทางที่ไม่ดี"

แขกไม่ได้รับเชิญ

เควิน วิลเลี่ยมส์ หรือที่รู้จักในเวลาต่อมากับชื่อ ไมล์ส ดาบอร์ด (เจ้าตัวตั้งชื่อนี้เพื่อรำลึกถึง ไมล์ส เดวิส นักดนตรีแจ๊ซชื่อดัง รวมถึงเชื้อสายจากทางคุณแม่) คือพี่ชายที่ฝึกเล่นบาสๆ พร้อมๆ กับ ไบสัน ความสูง 6 ฟุต 8 นิ้ว หรือ 203 เซนติเมตร และมีพรสวรรค์ ทว่าเขาเป็นโรคหอบหืดที่เป็นอุปสรรคจนเขาไม่สามารถเป็นนักกีฬาอาชีพได้ 

 

นั่นจึงทำให้เขาจึงต้องคอยแอบอิจฉาน้องชายอยู่ลึกๆ และยิ่งเมื่อ ไบสัน โตขึ้นเป็นนักบาส NBA และ เควิน ต้องใช้เงินของ ไบสัน เพื่อรักษาโรคหอบรวมถึงค่าเทอม ยิ่งทำให้เขาแอบแค้นหนักเข้าไปอีก ที่สุดแล้ว เควิน เรียนไม่จบ แม้ว่าจะเอาเงินจาก ไบสัน ไปไม่น้อยก็ตาม 

เควิน วิลเลี่ยมส์ หรือ ไมล์ส ดาบอร์ด กลายเป็นขี้เมาและขี้ยา เวลาเดียวที่เขาจะเดินทางมาหา ไบสัน คือเขาต้องการเงินสดเพื่อไปทำอะไรสักอย่าง ... และรอบนี้ก็เช่นกัน เขามาเพื่อข่มน้องชายเขาเหมือนเคย

แพทริค เบิร์น เพื่อนสนิทของ ไบสัน นั้นคือคนที่เขาติดต่อหากันตลอดผ่านโทรศัพท์ดาวเทียม อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ดาบอร์ด ขึ้นไปบนเรือ Hukuna Matata ได้ไม่กี่วัน เบิร์น ก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อนซี้ของเขาได้อีกเลย ... ทุกคนบนเรือลำนั้นติดต่อไม่ได้เลยแม้แต่รายเดียว จนกระทั่งเป็นเวลานานเกินไปครอบครัวของ ไบสัน และ เซเรน่า ต้องแจ้งตำรวจเพื่อให้สืบเรื่องนี้ 

และหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2002

วันนั้น มีชายคนหนึ่งที่สมอ้างว่าตัวเองคือ ไบสัน เดเล่ ซื้อทองคำมูลค่า 152,096 ดอลลาร์สหรัฐฯ ... เนื่องจากชายลึกลับคนนั้นซื้อทองด้วยเช็กของธนาคาร ทางแบงค์จึงรีบติดต่อ เควิน พอร์เตอร์ อีกหนึ่งเพื่อนสนิทของไบสัน ที่ไบสันจ้างเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอีกตำแหน่งทันที และหลังจากที่ตำรวจเข้ามาร่วมในการสืบสวน ที่สุดแล้วก็พบชายปริศนาคนดังกล่าว ... เควิน วิลเลียมส์ หรือ ไมลส์ ดาบอร์ด นั่นเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนต่อ จนพบตัวของ ไมล์ส ในที่สุด และในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาก็พบเรือที่ชื่อ Aria Bella ที่ปรากฎร่องรอยชัดเจนว่า นี่คือเรือ Hukuna Matata ที่หายสาบสูญไป แถมยังพบรอยกระสุนบนเรืออีกด้วย

 

ณ วันที่สูญหาย เรือลำดังกล่าวมีคนอยู่บนนั้น 4 คน คือ ไบสัน, เซเรน่า, ไมล์ส และ เบอร์ทรานด์ กัปตันเรือ... กาลเวลาผ่านไป กลับเจอคนบนเรือวันนั้นแค่คนเดียว แถมยังมีร่องรอยแห่งการก่ออาชญากรรมบนเรือที่สูญหายและเพิ่งค้นพบอีก หลักฐานทุกอย่างจึงแทบจะชี้ชัดได้ถึงข้อสันนิษฐานเดียว

นั่นคือ ไมล์ส ดาบอร์ด ฆ่า ไบสัน เดเล น้องชายแท้ๆ รวมถึงแฟนสาว และกัปตันเรือ รวม 3 ศพ

แม้ทุกอย่างดูจะชี้ชัดไปในทางนั้น แต่ ไมล์ส แหล่งข้อมูลเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในคดีนี้กลับไม่ทันได้บอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเจ้าตัวตั้งใจฉีดอินซูลินเกินขนาด จนอยู่ในภาวะโคม่า และเสียชีวิตในที่สุด ... กว่าจะได้สอบสวนก็สายไปเสียแล้ว เหลือเพียงแต่จดหมายน้อยฉบับเดียวเท่านั้น

ไมล์ส ทิ้งข้อความไว้ก่อนตายว่า เขาและน้องชายต่อสู้กันบนเรือ จนกระทั่งมีการยิงกัน ทำให้ ไบสัน เสียชีวิตทันที ซึ่ง ไมล์ส ย้ำว่า เป็นการป้องกันตัว ทว่ากับ เบอร์ทรานด์ ผู้เป็นกัปตันเรือนั้น เจ้าตัวยิงเพื่อปิดปากด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่ เซเรน่า นั้น ไมล์ส อธิบายว่า เธอล้มหัวกระแทกส่วนหนึ่งของเรือเสียชีวิตในจังหวะชุลมุน

 

ส่วนศพทุกคนที่เสียชีวิตบนเรือ Hukuna Matata นั้น ไมล์ส เผยว่า เขาได้โยนทิ้งมหาสมุทรหมดแล้ว... ติดอยู่อย่างเดียวที่เจ้าหน้าที่หาศพของทั้ง 3 คนเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

หลังจากการฆ่าตัวตายของ ไมล์ส เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก มีเพียงพิธีศพที่ถูกจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้จากไปเท่านั้น 

ปัจจุบันตระกูลวิลเลี่ยมส์ เหลือเพียง แพทริเซีย ผู้เป็นแม่ของ เควิน หรือชื่อใหม่ ไมล์ส และ ไบรอัน หรือชื่อใหม่ ไบสัน เท่านั้น หลังจาก ยูจีน สามีเก่าของเธอเสียชีวิตไปอีกรายจากโรคมะเร็งเมื่อปี 2008 ... ซึ่งเธอเลือกที่จะปลีกวิเวกโดยไม่พูดกับสื่อเท่าไรนัก นอกจากประโยคหนึ่งว่า

"ยังไงเสียฉันก็มีลูกชาย 2 คน พวกเขาทั้งคู่คือลูกของฉัน วิธีเดียวที่ฉันจะดำเนินชีวิตไปอย่างมีสติได้คือ การใช้ชีวิตอยู่กับความจริงให้ได้ก็แค่นั้นเอง" แพทริเซีย กล่าวทิ้งท้าย