ประเด็นร้อนหลังเกม : ผีแดง โดนตีเจ๊านาทีท้าย

เกมในครึ่งแรก ปีศาจแดง โดนนำไปก่อน 2-0 ก่อนจะมาตีคืนได้ 2-2 และแซงนำ 3-2 แต่ท้ายที่สุดท้ายเจ้าบ้าน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 3-3 ในช่วงนาทีสุดท้ายของเกม 3 ประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาจากเด็กปั่นจาก อคาเดมี่ ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น แบรนดอน วิลเลียมส์, เมสัน กรีนวู้ด และ มาร์คัส แรชฟอร์ด

4. สถิติหลังเกมและรูปเกมโดยรวมShaun Botterill/GettyImagesรูปเกมโดยรวมช่วงครึ่งแรกเป็นทางฝั่ง เชฟฟิลด์ ที่เล่นได้ดีกว่าไล่บี้กดดันเป็นว่าเล่นหาโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าพร้อมยิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 แต่มาช่วงครึ่งหลัง โซลชา ปรับ แท็คติก เปลี่ยนมาเล่นแผงหลังแบ็คโฟร์ถอด ฟิล โจนส์ ออกและส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงมาแทน ซึ่งดูจะเข้าท่ามากกว่า 

ปีศาจแดง มีโอกาสบุกและหาจังหวะจบได้บ่อยครั้งแต่ส่งบอลซุกก้นตาข่ายไม่ได้สักทีก่อนจะมาโดนทิ้งห่างเป็น 2-0 หลังจากนั้นไม่นาน แบรนดอน วิลเลียมส์ แบ็คซ้ายวัย 19 ปี มายิงประตูตีไข่แตกให้ทีมได้สำเร็จ ก่อนที่ เมสัน กรีนวู้ด จะลงมายิงประตูตีเสมอให้ทีมกลับสู่เกม

 เพียงอึดใจเดียว แดเนี่ยล เจมส์ ก็มาถวายพานให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูขึ้นนำได้สำเร็จเป็น 2-3 เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ ปีศาจแดง แต่แล้ว เจ้าบ้าน เชฟฟิลด์ ก็มาได้ประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายของเกมทำให้จบเกม เสมอกันไป 3-3  

 สถิติหลังเกม

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงประตู 12 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 40 เปอร์เซนต์

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงประตู 11 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 60 เปอร์เซนต์

3. สร้างสถิติเทียบชั้น คลาส ออฟ 92PAUL ELLIS/GettyImagesการที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู้ด และ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ทำประตูได้ นั่นก็ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างสถิติใหม่ด้วยการมีนักเตะที่อายุไม่เกิน 22 ปีหรือน้อยกว่า ช่วยกันยิง 3 คน ในเกมเดียวกันของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

 โดยครั้งสุดท้ายที่ ปีศาจแดง มีนักเตะอายุน้อยที่ยิงเกมเดียวกันได้เยอะขนาดนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปสมัยที่ พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ และ เดวิด เบ็คแฮม ลงสนามยิงพร้อม ๆ กันในปี 1996 ที่พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรส

2. แย่เลย ฟิล โจนส์Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImagesเกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เลือกปรับแท็คติกมาเล่นระบบหลัง 3 ส่ง ฟิล โจนส์ ออกสตาร์ทร่วมกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ซึ่งการล้างสนามไปนานของ โจนส์ ทำให้เกมนี้ฟอร์มของเขากลายเป็นบ่อน้ำมันชั้นดีให้คู่ต่อสู้กดดันใส่ตลอดช่วงครึ่งแรกและเป็นส่วนสำคัญในการเสียประตูแรกอีกด้วย จากจังหวะ ลีส์ มุสเซต เบียดแย่งไปถึงเส้นหลังก่อนหักมาให้ จอห์น ลุนด์สแตรม ยิงด้วยขวาไปติดขา เด เคอา ก่อนบอลจะทะลักมาชนหน้าแข้ง จอห์น เฟล็ค เข้าประตูส่งเจ้าบ้านนำ 1-0

 น่าเสียดายที่ เมื่อได้รับโอกาสออกสตาร์ทตัวจริงแม้จะพยายามพิสูจน์ตัวเองมากแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วไม่สามารถคว้าโอกาสดี ๆ แบบนี้เอาไว้ได้ มองแล้วคงยากที่เบียดขึ้นมาแย้่งตัวจริงได้อีก ก่อนจะมาโดนเปลี่ยนตัวออกทันทีในครึ่งหลัง

1. น้าลูกอม วางแท็คติกพลาดPAUL ELLIS/GettyImagesโอเล่ กุนนาร์ โซลชา วางแท็คติกในระบบหลัง 3 และพลาดไปอีกตรงที่วาง ฟิล โจนส์ ที่ล้างสนามไปนานไว้ทางฝั่งซ้ายผสานงานร่วมกับ แบรนดอน วิลเลียมส์ วิงแบ็คซ้ายที่อ่อนประสบการณ์ ทำให้เป็นเป้าหมายการเข้าทำของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่เจาะมาทางฝั่งซ้ายเป็นส่วนมากและทำได้ดีซะด้วยสุดท้ายก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0

 ระบบดังกล่าวทำให้แดนกลางของ ปีศาจแดง อย่าง เฟร็ด และ เปร์เรร่า ถอยลงต่ำมาช่วยแก้ไขความผิดพลาดบ่อยครั้ง ก่อนในครึ่งหลัง โซลชา จะมาเปลี่ยนใช้ระบบแผงหลังแบ็คโฟร์ และพลิกสถานการณ์กลับมาสู้ได้ยิงคืน 3 ประตูรวดขึ้นนำสกอร์ 3-2 แต่แทนที่จะเล่นระบบเดิม เพราะกำลังไล่กดเจ้าบ้านอยู่หมัด แต่อยู่ดีๆ เจ้าตัวก็เปลี่ยน อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล และส่ง อักเซล ตวนเซเบ้ มาเล่นแทนในนาทีที่ 84 จากนั้นไม่กี่นาทีทีมก็โดนตีเสมอ