พท.เชื่อพรรคได้ข้อสรุปผู้นำฝ่ายค้าน24มค.
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

พท.เชื่อพรรคได้ข้อสรุปผู้นำฝ่ายค้าน24มค.

แชร์เรื่องนี้
นายสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความเคลื่อนไหวภายในพรรค ต่อการที่ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมจะเปิดประชุม เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันอังคารที่ 25 ม.ค.นี้ โดยระบุว่า เท่าที่ทราบนั้น มีการเรียกประชุมไปเมื่อวานนี้ในส่วนของการเตรียมพรรค เพื่อรับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ตนเองไม่ได้เข้าร่วมด้วย จึงยังไม่ทราบว่า จะมีทิศทางอย่างไร

ส่วนในกรณีของตัวผู้นำฝ่ายค้านนั้น เชื่อว่า วันจันทร์นี้น่าจะได้ข้อสรุป โดยจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.พรรค แต่ในทางปฏิบัตินั้นอาจจะมีระดับผู้ใหญ่หารือกันนอกรอบก่อน ซึ่งคงต้องทำคู่กันไป และเกินกว่าที่ตนเองจะแสดงความเห็นได้ เนื่องจากเรื่องบานปลายไปมากต้องให้ผู้ใหญ่หารือกัน

อย่างไรก็ตาม นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การกำหนดท่าทีพรรคเกี่ยวกับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น จะมีการประชุมเป็นทางการอีกครั้ง วันจันทร์นี้

ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ในวาระ 2 วันที่ 25 ม.ค.นั้น โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอฝากถึงรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลว่า วันนี้ มีเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งทำก่อน โดยต้องแก้ไขปัญหาข้าวยากหมากแพง ปัญหาไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ประชาชนก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสมประโยชน์กันของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นว่า การเจรจาต่อรองเรื่องสูตรที่มาของ ส.ส. จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ว่า เจรจาต่อรองสูตรไหนก็เป็นเหมือนลิเกโรงใหญ่ เพราะวันนี้ในพรรคประชาธิปัตย์ ยังแบ่งกันเล่นคนละหน้า ส่วนกรณีการพิจารณา ในวาระ 2-3 นั้น พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ต้องมาอิงกระแสพรรคเพื่อไทยว่า จะเป็นตัวแปร เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ร่วมกันผูก แล้วต้องร่วมกันแก้เอง ที่สำคัญพรรคเพื่อไทยชัดเจน ไม่ร่วมสังฆรรมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเว้น นำรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2540 มาใช้ ดังนั้น ในวันที่ 24 ม.ค. เวลา 15.00 น. พรรคเพื่อไทย จะมีการประชุม ส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยึดหลักไม่ร่วมสังฆกรรมเป็นหลัก นอกจากนี้ จะมีการระดมความเห็นแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน รวมถึง เลือกผู้นำอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย