ฮุนเซนแจงเหตุตึงเครียดไทย-กัมพูชา

ฮุนเซนแจงเหตุตึงเครียดไทย-กัมพูชา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ ของ นักเคลื่อนไหวที่ติดตามสถานการณ์พระวิหารอย่างใกล้ชิด รายงานอ้างข้อมูลจาก เว็บไซต์ วิสัยทัศน์ใหม่กัมพูชา กระบอกเสียงของรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 29 ธันวาคมปีที่ผ่านมา ที่เผยแพร่สุนทรพจน์ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระหว่างพิธีปิดการประชุมกระทรวงพัฒนาชนบท ประจำปี 2553

ประการแรก เพื่อชี้แจงจุดยืนความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ว่า ตนไม่เคยยอมรับแม้แต่น้อยว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเป็นเหตุนำสู่ไปความตึงเครียดระหว่างกัมพูชากับไทย ตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง แต่เกิดจากการรุกรานของทหารไทย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ปี 2551 ขอนานาชาติและยูเนสโกไม่ให้เข้าใจผิด เนื่องจากความพยายามบิดเบือนของฝ่ายไทย และแม้เอกอัครราชทูตระหว่างสองประเทศจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมแล้ว แต่ตนยังไม่นับว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศกลับสู่ขั้นปกติอย่างเต็มที่ แต่ความสัมพันธ์ขั้นปกติอย่างเต็มที่ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทหารไทย ที่รุกล้ำพื้นที่ของกัมพูชา ได้ถอนกำลังออกจากพระเจดีย์ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ดังเช่น เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เมื่อทหารได้ปรับกำลังออกจากพระเจดีย์ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ นั้น ตนจึงจะประกาศการบรรลุความสัมพันธ์ขั้นปกติ อย่างเต็มที่

ประการที่สอง เกี่ยวกับการตีความว่า กัมพูชาได้รุกล้ำแผ่นดินไทย ราว 1.8 ล้านไร่ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กัมพูชากลายเป็นผู้รุกรานแผ่นดินของคนอื่น และในบางคราว กัมพูชา จะถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของบางประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ รัฐบาลไทยและกองทัพไทย ได้ยืนยันว่า เขาไม่ได้เสียดินแดน ซึ่งสามารถยืนยันว่า พวกหัวรุนแรงเหล่านั้น กล่าวหาอย่างผิด ๆ และไร้หลักฐาน ตนแน่ใจว่า รัฐบาลไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย , พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม และ พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ที่เคยมาพบตนก่อนนี้ "ทั้งหมดเป็นคนรักชาติ" และเมื่อทั้งสองฝ่ายยืนยันว่า ไม่มีการเสียดินแดน นั่นเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง ที่จะไม่มีเรื่องต้องกังวล แต่หากมีความกังวลเกี่ยวกับการย้ายหมู่บ้าน K1 จากปราสาท (พระวิหาร) ซึ่งการย้ายหมู่บ้านไม่ได้เป็นไปตาม "ความต้องการของไทย" แต่เป็นไปตามข้อเรียกร้องขององค์การยูเนสโก

ส่วนกรณีการจับกุมตัว 7 คนไทย ซึ่งมีการแทรกแซงให้มีการปล่อยตัวสมาชิกรัฐสภา (ไทย) แต่ตนบอกกับคนที่มาร้องขอว่า สมาชิกรัฐสภาไทย มีเอกสิทธิ์เฉพาะในแผ่นดินไทย เมื่อเขาเข้ามาในแผ่นดินกัมพูชาเพื่อตรวจสอบที่ดิน กัมพูชา มีสิทธิ์ทุกประการที่จะจับกุม นอกจากนี้ ตนยังหวังว่า นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ จะเข้าใจระบบกฎหมายของกัมพูชา ซึ่งไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และตนก็คิดว่า การจับกุมจะไม่นำไปสู่ความบาดหมางทางการทูตระหว่างกัมพูชาและไทย อีกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล