รองฯสุเทพบอกไม่ขอวิจารณ์มิ่งขวัญตัวหลอก

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย ที่จะชู นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน มาเป็น นายกรัฐมนตรี คนต่อไปนั้น นายสุเทพ เห็นว่า ส.ส.บางส่วนของพรรคเพื่อไทย ต้องการให้ภาพลักษณ์ของหัวหน้าพรรค โดดเด่น และแยกออกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง นายมิ่งขวัญ ก็มีลักษณะตามแนวทางนี้ พร้อมกันนี้ ส่วนตัวไม่ขอวิเคราะห์ว่า นายมิ่งขวัญ อาจเป็น เป้าหลอก แต่ตัวจริงคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นคู่แข่งกัน อีกทั้ง ถูกมองว่า เป็นการยุแยงให้เกิดความแตกแยก อย่างไรก็ตาม นายมิ่งขวัญ เป็นนักการตลาดที่มีความสามารถ อาจเป็นผู้นำในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็จะทำให้มีน้ำหนักน่าฟังมากขึ้น
นายสุเทพ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการควบคุมสถานการณ์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ จะดูแลความเรียบร้อยได้ พร้อมวิงวอนฝ่ายต่าง ๆ อย่าได้ออกมาสร้างความวุ่นวาย เพื่อให้ประชาชนได้มีความสุข ในช่วงเทศกาลปีใหม่
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยังกล่าวถึงกรณีที่ ศาลยกคำร้องของ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เรื่องการคัดค้านการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ว่าหลายคนอาจจะมีความรู้สึกไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับ นายจตุพร ที่อาจไม่ชอบใจ เพราะถูกจำกัดไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ แต่เมื่อศาลพิจารณาแล้ว ก็ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับ ทั้งนี้ไม่ว่า นายจตุพร จะเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง
ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ครั้งต่อไป
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังยืนยันว่า ทางรัฐบาล จะไม่ปิดกั้นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นายจตุพร เพราะ นายกรัฐมนตรี
เป็นนักประชาธิปไตย ที่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา จึงยินดีที่จะให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ
สำหรับฉายารัฐบาลที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ว่าเป็น รัฐบาลรอดฉุกเฉิน นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับฉายานี้เพราะรัฐบาลเข้ามาในช่วงวิกฤติสูงสุด ดังนั้น สิ่งที่ตั้งความหวังก็ย่อมสูง ฉายาที่ได้ก็จะเป็นสิ่งสะท้อนให้รัฐบาลนำไปปรับปรุง ถือเป็นกระจกสะท้อนเพราะถือว่าสื่อทำงานใกล้ชิดแต่ที่ผ่านมานั้น การทำงานบางเรื่องอาจถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ได้
ส่วนฉายาของนายกรัฐมนตรี คือ ซีมาร์คโลชั่น นั้น ก็น่าเห็นใจเพราะทำงานร่วมกันมา รู้ว่าทำงานหนัก ตั้งใจทำงาน แต่พูดไปก็เหมือนเชียร์กันเอง สิ่งที่รัฐบาลได้ทำไปนั้นส่งผลให้ประชาชนอยู่ดีกินดีกว่าช่วงรัฐบาลอื่น แต่ก็เชื่อว่าตั้งฉายาดังกล่าวคงไม่ทำให้นายกฯ เสียกำลังใจ
นายสุเทพ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการควบคุมสถานการณ์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ จะดูแลความเรียบร้อยได้ พร้อมวิงวอนฝ่ายต่าง ๆ อย่าได้ออกมาสร้างความวุ่นวาย เพื่อให้ประชาชนได้มีความสุข ในช่วงเทศกาลปีใหม่
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยังกล่าวถึงกรณีที่ ศาลยกคำร้องของ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เรื่องการคัดค้านการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ว่าหลายคนอาจจะมีความรู้สึกไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับ นายจตุพร ที่อาจไม่ชอบใจ เพราะถูกจำกัดไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ แต่เมื่อศาลพิจารณาแล้ว ก็ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับ ทั้งนี้ไม่ว่า นายจตุพร จะเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง
ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ครั้งต่อไป
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังยืนยันว่า ทางรัฐบาล จะไม่ปิดกั้นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นายจตุพร เพราะ นายกรัฐมนตรี
เป็นนักประชาธิปไตย ที่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา จึงยินดีที่จะให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ
สำหรับฉายารัฐบาลที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ว่าเป็น รัฐบาลรอดฉุกเฉิน นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับฉายานี้เพราะรัฐบาลเข้ามาในช่วงวิกฤติสูงสุด ดังนั้น สิ่งที่ตั้งความหวังก็ย่อมสูง ฉายาที่ได้ก็จะเป็นสิ่งสะท้อนให้รัฐบาลนำไปปรับปรุง ถือเป็นกระจกสะท้อนเพราะถือว่าสื่อทำงานใกล้ชิดแต่ที่ผ่านมานั้น การทำงานบางเรื่องอาจถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ได้
ส่วนฉายาของนายกรัฐมนตรี คือ ซีมาร์คโลชั่น นั้น ก็น่าเห็นใจเพราะทำงานร่วมกันมา รู้ว่าทำงานหนัก ตั้งใจทำงาน แต่พูดไปก็เหมือนเชียร์กันเอง สิ่งที่รัฐบาลได้ทำไปนั้นส่งผลให้ประชาชนอยู่ดีกินดีกว่าช่วงรัฐบาลอื่น แต่ก็เชื่อว่าตั้งฉายาดังกล่าวคงไม่ทำให้นายกฯ เสียกำลังใจ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี
