นายกฯ วอน อบต. อย่ากดดันขึ้นเงินเดือน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การให้ความช่วยเหลือ 3 คนไทย ที่ถูกจับในกัมพูชา กรณีรุกล้ำพื้นที่ พร้อมกับพบอาวุธผิดกฎหมายนั้น ไม่ได้เป็นการแทรกแซงตามที่หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ กล่าวหาซึ่งยืนยันว่า การที่รัฐบาลช่วยเหลือเป็นการช่วยเหลือตามกรอบกฎหมาย และขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์
อย่างไรก็ตาม หากการพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โทษจำคุก 18 เดือน นั้น ถือว่าเป็นบทลงโทษที่เบาแล้ว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. เตรียมเคลื่อนไหว เนื่องจากไม่พอใจการชะลอขึ้นเงินเดือน อบต. ว่า เรื่องดังกล่าว ตนรอให้ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานผลการหารือกับกระทรวงมหาดไทยในเย็นวันนี้ ซึ่งตนขออย่ากดดันขณะเดียวกัน รัฐบาล คิดอย่างเหมาะสม รวมทั้ง ป้องกันให้รอบคอบ โดยการดูว่า หากขึ้นเงินเดือนแล้วจะกระทบกับงบประมาณการพัฒนาหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่า เรื่องนี้มี ปัญหาในเรื่องของงบประมาณ ทั้งนี้ ยืนยัน รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นการเมือง ขณะเดียวกัน เห็นว่า ฝ่ายค้าน กล่าวหาโดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องการขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการทั้งระบบนั้น ตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาในข้อกฎหมายและการขึ้นเงินเดือนก็เป็นงบกลางในหมวดเงินเดือน ไม่ใช่งบประมาณที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรณีที่ตนพบกับ นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานกลุ่มคนเสื้อแดง รุ่น 2 วานนี้นั้น ไม่มีการแลกเปลี่ยนสิ่งใด ตามที่มีการตั้งข้องสังเกต ซึ่งยืนยันที่จะให้มีสิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนการประกันตัวนั้น มี 2 ประเด็น ประกอบด้วย เรื่องฐานกฎหมายสิทธิระหว่างที่ยังไม่มีการพิพากษา และข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ซึ่งรัฐบาลจะนำข้อเสนอมาพิจารณา ขณะเดียวกัน ยืนยัน ไม่มีการฮั้วกับนางธิดา และทุกอย่างต้องเป็นไปตามความเป็นจริงของแต่ละบุคคลด้วย โดย รัฐบาล จะเน้นให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ไม่มีโอกาส เนื่องจาก หากให้ความช่วยเหลือกับแกนนำก่อนก็จะเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การที่จะพิจารณาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ศาลพิจารณาการประกันตัวนั้น จะต้องมีการประเมินภายหลัง กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เข้าพบไปพูดคุยกับผู้ถูกคุมขังแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากการพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โทษจำคุก 18 เดือน นั้น ถือว่าเป็นบทลงโทษที่เบาแล้ว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. เตรียมเคลื่อนไหว เนื่องจากไม่พอใจการชะลอขึ้นเงินเดือน อบต. ว่า เรื่องดังกล่าว ตนรอให้ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานผลการหารือกับกระทรวงมหาดไทยในเย็นวันนี้ ซึ่งตนขออย่ากดดันขณะเดียวกัน รัฐบาล คิดอย่างเหมาะสม รวมทั้ง ป้องกันให้รอบคอบ โดยการดูว่า หากขึ้นเงินเดือนแล้วจะกระทบกับงบประมาณการพัฒนาหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่า เรื่องนี้มี ปัญหาในเรื่องของงบประมาณ ทั้งนี้ ยืนยัน รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นการเมือง ขณะเดียวกัน เห็นว่า ฝ่ายค้าน กล่าวหาโดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องการขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการทั้งระบบนั้น ตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาในข้อกฎหมายและการขึ้นเงินเดือนก็เป็นงบกลางในหมวดเงินเดือน ไม่ใช่งบประมาณที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรณีที่ตนพบกับ นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานกลุ่มคนเสื้อแดง รุ่น 2 วานนี้นั้น ไม่มีการแลกเปลี่ยนสิ่งใด ตามที่มีการตั้งข้องสังเกต ซึ่งยืนยันที่จะให้มีสิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนการประกันตัวนั้น มี 2 ประเด็น ประกอบด้วย เรื่องฐานกฎหมายสิทธิระหว่างที่ยังไม่มีการพิพากษา และข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ซึ่งรัฐบาลจะนำข้อเสนอมาพิจารณา ขณะเดียวกัน ยืนยัน ไม่มีการฮั้วกับนางธิดา และทุกอย่างต้องเป็นไปตามความเป็นจริงของแต่ละบุคคลด้วย โดย รัฐบาล จะเน้นให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ไม่มีโอกาส เนื่องจาก หากให้ความช่วยเหลือกับแกนนำก่อนก็จะเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การที่จะพิจารณาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ศาลพิจารณาการประกันตัวนั้น จะต้องมีการประเมินภายหลัง กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เข้าพบไปพูดคุยกับผู้ถูกคุมขังแล้ว
สนับสนุนเนื้อหา
