คุณผู้ชายโปรดใส่ใจ! ผลวิจัยเครื่องดื่มยอดนิยม ช่วยลดความเสี่ยง "มะเร็งต่อมลูกหมาก"

ตัวช่วยคุณผู้ชาย! เครื่องดื่ม 1 ชนิด วิจัยมาแล้วช่วยลดความเสี่ยง "มะเร็งต่อมลูกหมาก" สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้ชาย

วารสารวิชาการ BMC Nutrition ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยจากทีมมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Kwame Nkrumah (ประเทศกานา) ที่ระบุว่า ชาเขียว ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมของโลก อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายได้

ตามรายงานของผู้วิจัย มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่ถูกวินิจฉัยมากเป็นอันดับ 2 ในผู้ชายทั่วโลก และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 จากมะเร็งทั้งหมด

ทีมวิจัยได้เก็บข้อมูลจากผู้ชายที่อาศัยในเมือง Ayigya ประเทศกานา ซึ่งมีอายุ 40 ปีขึ้นไป และไม่เคยมีประวัติเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำ กับกลุ่มที่ไม่ดื่ม

กลุ่มตัวอย่างถูกจัดแบ่งตามช่วงอายุคือ 40-49, 50-59, 60-69 และ 70 ปีขึ้นไป

ผลการศึกษาพบว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มชาเขียว ผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำจะได้รับประโยชน์เด่นชัด 3 ประการดังนี้

1.ผู้ที่ดื่มชาเขียวมี BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม และมีโอกาสเป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินน้อยกว่า

2. มีภาวะไขมันในเลือดสูงน้อยกว่า โดยมีค่าระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์, คอเลสเตอรอลรวม และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ต่ำกว่าชัดเจน ปัจจัยเหล่านี้เป็นความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยไขมันสะสมที่ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ความผิดปกติของฮอร์โมน และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับโรคอ้วน ล้วนส่งเสริมการเติบโตและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ขณะเดียวกัน มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า คอเลสเตอรอลอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่และรุกรานของเซลล์มะเร็งด้วย

3.ในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีระดับ PSA ต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่มอย่างชัดเจน PSA หรือแอนติเจนเฉพาะต่อมลูกหมาก เป็นโปรตีนที่ผลิตโดยเซลล์ของต่อมลูกหมาก โดยทั่วไปในผู้ชายสุขภาพดี ระดับ PSA ในเลือดจะต่ำ แต่หากมีปัญหากับต่อมลูกหมาก เช่น การอักเสบ การโตผิดปกติ หรือมะเร็ง ค่า PSA จะเพิ่มขึ้น

ทีมวิจัยระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระประเภทโพลีฟีนอลที่อุดมอยู่ในชาเขียว อาจเป็นกุญแจสำคัญของผลลัพธ์เชิงบวกเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม คาเทชิน (catechins) ซึ่งมีสารสำคัญคือ epigallocatechin gallate (EGCG) ที่เคยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย และช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด