คนงานเหมืองชิลีรายที่ 6 ถูกช่วยเหลือแล้ว

นายออสมาน อาราโย วัย 30 ปี กลายเป็นคนงานเหมือง รายที่ 6 จากจำนวนทั้งหมด 33 ราย ที่ติดอยู่ใต้ดินในเหตุการณ์เหมืองถล่มเมื่อ 10 สัปดาห์ ที่แล้ว ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ด้านเจ้าหน้าที่ ทีมช่วยเหลือได้ให้สัมภาษณ์ว่าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกลุ่มแรกนั้น จะช่วยผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงที่สุด ขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจะเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วย ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง หรือ โรคปอด และกลุ่มสุดท้าย คือ ผู้ที่ร่างกายแข็งแรงอีกครั้ง

โดยเจ้าหน้าที่ กลุ่มช่วยเหลือจะใช้วิธีการช่วยผู้ประสบภัย ด้วยการหย่อนแคปซูลช่วยเหลือ กว้าง 53 เซนติเมตร ลงไปในปล่องเป็นครั้งแรก และสามารถชักรอกกลับขึ้นมา โดยไม่มีปัญหาขัดข้องใดๆ และมีการคาดว่า ภารกิจครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 2 วัน

ขณะที่ นายวชิรพงศ์ นาสารีย์ 1 ใน 2 วิศวกรไทย ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ติดอยู่ในเหมืองใต้ดิน ที่
ประเทศชิลี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ได้เป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือ เป็นเพราะว่าคนไทย มีประสบการณ์ในการทำงานสูง
ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี และสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย

"สำนักงานใหญ่ในแคนาดา เลือกเรา ก็เพราะคนไทยปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี รวมทั้งเรามีประสบการณ์ในการ
ทำงานค่อนข้างมาก นอกจากนี้ เขายังเลือกเราจากประสบการณ์ทำงาน และการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี"

สำหรับวิศวกรไทย ในทีมช่วยเหลือนี้ ทำหน้าที่ตรวจสอบแนวเชื่อมโลหะของท่อ ที่ส่งลงไปในปล่องในปฏิบัติการ
ช่วยเหลือคนงานเหมืองชิลี 33 คน

โดยล่าสุดหน่วยกู้ภัยของชิลี ได้ช่วยเหลือนายฮอร์เก กัลเลกิลลอส เจ้าหน้าที่ช่างกล ซึ่งเป็นผู้ประภัยรายที่ 11 ซึ่งป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงขึ้นมาจากใต้ดินได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ในตอนนี้เหลือยอดผู้ประสบภัยอีก 22 รายทีกำลังรอการช่วยเหลือ

สำหรับคนงานเหมืองคนที่ 10 ที่ได้รับการช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้คือ นายอเล็กซ์ เวกา ซาลาซาร์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าช่างกล
วัย 31 ปี

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบิดาของ นายอเล็กซ์ กัลเลกิลลอส วัย 31 ปี ได้เข้ามาเป้นหนึ่งในทีมช่วยเหลือโดยใช้ชื่อปลอม
เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผิดกฏของหน่วยกู้ภัยที่ไม่อนุญาติให้ญาติของผู้ประสบภัยเข้าร่วมปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีอันตราย