ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 13 กันยายน 2553

ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 13 กันยายน 2553

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันนี้ เวลา 08.51 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปทรงเปิดการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 4 เรื่อง การขับเคลื่อนงานโภชนาการเพื่อคุณภาพชีวิต และทรงบรรยายพิเศษ เรื่อง 30 ปี ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในท้องถิ่นทุรกันดาร ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เวลา 15.06 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากอาคารชัยพัฒนา สวนจิตรดา พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดอาคารเรียนโรงเรียนพระดาบส และอาคารหอจดหมายเหตุมูลนิธิพระดาบส ณ มูลนิธิพระดาบส เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารปฏิบัติการช่าง ณ บริเวณเขตพระราชฐาน ท่าวาสุกรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในวันเดียวกันนี้ เวลา 14.04 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2552 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานพระโอวาท ความว่า ปัจจุบัน นานาประเทศต่างเร่งสร้างทรัพยากรบุคคลให้มีความรู้ความสามารถสูงเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้า บัณฑิตทั้งหลายผู้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย จึงถือเป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่าของสังคม ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศของเราต่อไป การจะสร้างความเจริญให้ได้ดังที่กล่าวนั้น นอกจากแต่ละคนจะต้องใช้วิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียนมาแล้ว ยังจำเป็นต้องมีคุณธรรม ที่สำคัญคือความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบ และความเสียสละด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะที่บัณฑิตสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้เชิญพระนามกรมของสมเด็จพระบรมราชชนกมาเป็นชื่อ จึงควรจะได้น้อมนำพระราชปณิธานของพระองค์ที่ว่า ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน หากปฏิบัติได้ดังนี้ บัณฑิตก็จะสามารถสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตน แก่ส่วนรวม และแก่ชาติบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook