สมาคมโภชนาการ เผยหญิงไทยอ้วนสูงกว่าชาย

สมาคมโภชนาการฯ เผยหญิงไทยอ้วน อ้วนลงพุงมากกว่าชายไทย ชี้เป็นเพราะธรรมชาติ ผู้หญิงมีการสะสมไขมันได้ดีมากกว่าชาย ไม่เว้นแม้แต่หญิงตั้งครรภ์ ร่างกายจะสะสมไขในได้มากกว่าปกติ แนะให้นมบุตรช่วยให้ร่างกายเผาผลาญผอมเร็วและย้ำผลิตภัณฑ์กาแฟไม่ช่วยลดความอ้วน

นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องหญิงไทยประสบปัญหาด้านโภชนาการสูงกว่าชายไทยและการจัดการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ว่า จากการรวบรวมข้อมูลสุขภาพประชาชนไทยของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในปี 2551-2552 มีตัวเลขออกมาชัดเจนว่า หญิงไทยประสบปัญหาภาวะโภชนาการสูงกล่าวชาย โดยพบหญิงอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะอ้วนร้อยละ 40 และผู้ชายไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมีภาวะอ้วนร้อยละ 28.4

นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนภาวะอ้วนลงพุง ก็พบว่าหญิงไทยมีสัดส่วนสูงกว่าผู้ชายเช่นกัน โดยหญิงไทยมีรอบเอวมากกว่า 80 เซนติเมตร ถึงร้อยละ 45 ส่วนชายไทยมีรอบเอวมากกว่า 90 เซนติเมตร ร้อยละ18.6 มาจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงรับประทานอาหารน้อย แต่ธรรมชาติของผู้หญิงร่างกายสะสมไขมันได้มากกว่าเพศชาย ทำให้อ้วนง่าย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่ร่างกายจะสะสมไขมันในปริมาณมากกว่าปกติ เพื่อสร้างน้ำนม หากไม่ให้นมบุตรก็จะไม่มีการเผาผลาญไขมันในส่วนนี้ ทำให้มีโอกาสอ้วนสูง และผู้หญิงยังเป็นโรคชอบเสียดายอาหาร ทำให้รับประทานเกินความพอดี

นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ในผู้หญิงที่มีอายุ 40-49 ปี มีภาวะเสี่ยงโรคอ้วนได้ครึ่งหนึ่ง ของจำนวนผู้หญิงทั้งหมดและในผู้หญิงทั่วไปมีโอกาสเสี่ยงภาวะอ้วนถึงร้อยละ 20 ส่วนเรื่องกาแฟลดความอ้วนนั้น ยืนยันตามหลักโภชนาการกาแฟไม่สามารถลดความอ้วนได้ ตรงกันข้ามนอกจากได้รับคาเฟอีน อาจยังได้รับน้ำตาล และไขมัน จากครีม นมนมข้นหวานอีกด้วย หากกาแฟมีการโฆษณาว่าสามารถลดความอ้วนได้ เข้าข่ายโฆษณาโอ้อวดเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค

ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 13-15 กันยายนนี้ สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ เตรียมจัดการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยเชิญนักโภชนาการจากทั่วประเทศมาแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ความรู้กับประชาชน อาทิ ขจัดโรคขาดสารไอโอดีนสู่ความยั่งยืนกินเพื่อลูกครบ 32 สมองดี