นาม พร้อมรับทุกตำแหน่ง ปัดเป็นการตอบแทนบุญคุณ แกนนำพธม.เผยถูกทาบเป็นกุนซือ รมว.สธ.

นาม พร้อมรับทุกตำแหน่ง ปัดเป็นการตอบแทนบุญคุณ แกนนำพธม.เผยถูกทาบเป็นกุนซือ รมว.สธ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พีระพันธุ์รับโทร.ทาบนามเป็นคณะ ทำงาน พร้อมชักชวนคตส.อีกหลายคนร่วมทีม ประธานคตส.เผยตอบรับแล้ว ปัดสุเทพตอบแทน เนื่องจากไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใคร ไม่ว่าเรื่องแม้วหรือใคร หากเป็นงานที่ได้รับมอบหมายทำหมด พิเชษฐ บอกรมว.สธ.ดึงเป็นกุนซือ อภิสิทธิ์ ยันรับผิดชอบ หากมีการแต่งตั้งใดๆ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเมื่อวันที่ 5 มกราคม ยอมรับได้โทรศัพท์ทาบทามนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือคตส.มาเป็นคณะทำงาน

ในการให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ทราบกระแสข่าวการเตรียมตั้งนายนามเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมออกมาจากที่ไหน แต่แนวทางการทำงานส่วนตัวจะตั้งคณะทำงานหลายหน่วย ประมาณ 7-8 ชุด เพื่อช่วยงานด้านต่างๆ ของกระทรวง

แต่ยอมรับว่าได้โทรศัพท์ ทาบทามนายนามมาเป็นคณะทำงาน ไม่ใช่ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี และที่ยืนยันยังไม่ได้คุยกันนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี(ที่มีข่าวเป็นคนจัดวางตำแหน่งนี้เอง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าว

นายพีระพันธุ์ยังสงสัยกระแสข่าวนี้ หลุดออกไปเนื่องจากมีผู้ดักฟังโทรศัพท์โดยกล่าวว่า อยากบอกว่า นี่เป็นเพียงความพยายามของผมที่จะทดสอบ การสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม และผมเชื่อว่ามีฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนดักฟัง สิ่งนี้เป็นการทดสอบของผม และเผอิญเรื่องที่ผมพูดคงเป็นเรื่องที่เขาสนใจ เลยนำไปโยงกัน ผมทดลองการดักฟังโทรศัพท์มาตั้งแต่ผมรับตำแหน่ง ที่ผ่านมาคงไม่ประทับใจแต่เรื่องนี้ประทับใจเลยปล่อยออกมา

ส่วนจะแก้ปัญหาเรื่องที่คิดว่าถูกดักฟังหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่แก้ ปล่อยมันไปเรื่อยๆ ใครอยากฟังก็ทำไป และคงไม่ต้องสืบอะไรมากเพราะรู้ๆกันอยู่ว่ามันมีกี่แห่งที่มีอุปกรณ์ เครื่องมือ แบบนี้ และสามารถดักฟังได้

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังยืนยันว่า คงไม่ต้องเรียกพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น คงไม่ต้องเรียก แต่ผมมีวิธี ที่ผ่านมาจะเคยเกิดกรณีนี้หรือไม่ นั้นไม่ทราบ แต่เมื่อผมเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ในกระทรวงยุติธรรมมีข่าวปล่อยเยอะมาก และไม่อยากให้เชื่อกระแสข่าวมากนัก

นายพีระพันธุ์ยังให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์อีกครั้งว่า ผมยังไม่กำหนดว่าจะให้นายนามไปเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานในด้านใด นอกจากนี้ ผมยังได้ชักชวนอดีตคตส.คนอื่นที่มีความสามาถมาร่วมทำงานด้วยแต่กลับไม่เป็นข่าว นายพีระพันธุ์กล่าว

ขณะที่นายนาม ยิ้มแย้ม กล่าวว่า ยอมรับว่าได้รับการทาบทามให้ไปดำรงตำแหน่งจริง โดยนายพีระพันธุ์ โทรศัพท์มาหา เพื่อขอให้ไปช่วยทำงาน โดยให้เหตุผลว่างานกระทรวงยุติธรรมมีค่อนข้างเยอะ ผมไม่ขัดข้องกับคำเชิญ เพราะเห็นว่าเป็นงานช่วยบ้านเมือง พร้อมที่จะทำอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าข่าวหลุดออกไปได้อย่างไรนายนามกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ที่ถูกมองว่าตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นบำเหน็จตอบแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ นายนาม กล่าวว่า บำเหน็จตอบแทนอะไร ไม่มีใครมาตอบแทนอะไรผมหรอก เพราะผมไม่เคยทำอะไรให้ใครต้องมาตอบแทน ไม่นี้บุญคุณใคร การทำงานที่ผ่านมาของผมยึดหลักความถูกต้อง หลักฐานว่าอย่างไงก็ว่าไปอย่างนั้น

อดีตประธานคตส.ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่า ผมไม่เคยรู้จักคุณสุเทพเป็นการส่วนตัว เคยเห็นกันแค่ตอนไปที่ศาลเรื่องคดียุบพรรคไทยรักไทยเท่านั้น และก็ไม่เคยมีบุญคุณอะไร ที่จะต้องมาตอบแทนกัน

ทั้งนี้ นายนามกล่าวปฎิเสธด้วยว่า ไม่เคยเรียกร้องขอรถประจำตำแหน่งอะไร เพียงแต่ว่าผมไม่ได้ขับรถเองมาหลายปีแล้ว ตอนที่รัฐมนตรียุติธรรมโทรมาคุยก็เลยบอกไปว่า ถ้าจะให้ผมทำงานก็เอารถมารับแล้วกัน เพราะไม่ได้ขับรถเองมานานแล้ว และระยะทางจากบ้านไปกระทรวงยุติธรรมก็ไกลกันมาก ก็แค่นั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวโจมตีแบบนี้ จะรับตำแหน่งอีกหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า ตอนนี้ยืนยันว่าไม่ขัดข้อง เพราะร่างกายยังดี สมองยังดี ยังทำงานได้ แต่เรื่องนี้คงจะมาถามตนไม่ได้ ต้องไปถามรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเอง

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การให้เข้ามาช่วยงานครั้งนี้ จะให้ช่วยจัดการคดีความที่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายนาม กล่าวว่า จะไปจัดการใคร ผมไม่รู้ เพราะตอนที่เขาโทรศัพท์มาชวน เขายังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้ช่วยงานด้านไหน

ส่วนหากได้รับมอบหมายงาน ที่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ จะรับหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า ทุกงานที่ได้รับมอบหมายมา ไม่ว่าจะเป็นอะไรผมพร้อมที่จะทำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณ หรือเป็นใคร ผมไม่มีการเลือกปฎิบัติอยู่แล้ว เพราะการทำงานของผม ทุกอย่างยึดตามหลักฐานเป็นหลัก ไม่เคยกลั่นแกล้งใคร เพราะสุดท้ายมันต้องไปจบอยู่ที่ศาลไม่ใช่ที่ผม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากมีการแต่งตั้งข้าราชการทางการเมือง เรื่องจะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่จากการสอบถามขณะนี้ยังไม่มี ซึ่งหากมีการแต่งตั้งใดๆ ก็ตามรัฐบาลต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าการตั้งนายนาม เป็นการตั้งใจที่จะโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะตั้งใครมาหรือไม่ ไม่มีการตั้งใจกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น ผิดคือผิดถูกคือถูก ขอยืนยัน

นายกฯยืนยันการแต่งตั้งต้องฟังมติครม.รวมถึงเสียงจากสมาชิกพรรคด้วย โดยกล่าวว่า ใช่ เราจะฟังความเห็นว่าจะทำงานหรือช่วยงานรัฐมนตรีได้ดีจากทุกฝ่าย ขณะนี้มีการแต่งตั้งน้อยมาก มีเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รองเลขาธิการฯ และรองโฆษกรัฐบาลเท่านั้น

นายกฯยังกล่าวกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การผลักดันอดีตส.ส.สอบตกของพรรคหลายคน ที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)เป็นเลขานุการรัฐมนตรี หรือนำบุคคลที่ทำงานอยู่ในองค์กรที่เคยตรวจสอบพ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาจทำให้ถูกโจมตีได้ว่า คิดว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่บุคคลคนนั้นๆ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงาน หรือทำอะไรที่เสียหายหรือไม่ คงไม่ใช่การมาบอกว่าเป็นไม่ได้เพราะอยู่ตรงนั้นหรือรู้จักคนนี้

ผมดูตามความเหมาะสม เช่น นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ผมพูดได้เลยว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ทางการทูตสูงและที่สำคัญมีความรู้ด้านเศรษฐกิจดี เพราะเป็นอดีตเอกอัคราชทูตหลายประเทศ ารถต่อประเด็นกับทูตต่างประเทศได้ง่าย นายกฯกล่าว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า นั่นยังเป็นแค่ข่าวโคมลอยอยู่ ข้อเท็จจริงคือไม่มีการเสนอชื่อผู้หนึ่งผู้ใดเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีหรือเลขานุการรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการประชุมครม.ในวันที่ 6 มกราคมนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายกฯมีบัญชาให้รีบดำเนินการ ซึ่งคงจะดำเนินการในสัปดาห์ถัดไป ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มทำเลย เพราะยังไม่มีเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อระวังในการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเพื่อไม่ให้ถูกเพ่งเล็งและโจมตีภายหลังอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ก็เป็นปกติ เราต้องรับผิดชอบในการคัดเลือกบุคคล ถ้าเห็นว่าได้คนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนที่ใช้งานได้ มาช่วยงานรัฐบาลได้ และเหมาะสมก็เสนอแต่งตั้ง ถ้ามีการวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องชี้แจงตามข้อเท็จจริง

ส่วนเกรงจะซ้ำรอยเดิมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการต่างตอบแทนให้กลุ่มต่างๆ อาทิ พธม. หรือกลุ่มทุน หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ผมกราบขอความกรุณาว่า เราอย่าไปแบ่งคนเลยครับ ไม่ต้องไปแบ่งเป็นฝ่ายไหนทั้งสิ้น ถ้าเราได้คนดีมีความรู้ความสามารถและคิดว่ามาทำงานให้รัฐบาลได้ก็เอาเถอะ

นายพิเชฐ พัฒนโชติ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 1 ในบุคคลที่ถูกเสนอรายชื่อให้นั่งเก้าอี้เลขานุการรัฐมนตรีหรือที่ปรึกษารัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับการประสานโดยตรงจากนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี โดยได้พูดคุยกันตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ตอบตกลง เพราะเห็นว่า นายวิทยายังให้ความสำคัญ แม้ว่าไม่ได้เป็นส.ส. อีกทั้งตนและนายวิทยา ยังมีความสนิท เพราะเป็นเพื่อนกันด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งหนึ่ง

นายสำราญ รอดเพชร อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 7 พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า เพิ่งทราบจากข่าวว่าปรากฎชื่อในโผ แต่ยังไม่ได้รับการประสานจากพรรคแต่อย่างใด และหากมีใครติดต่อก็จะขอคิดดูก่อน เพราะยังไม่รู้ว่า จะทำหน้าที่ตรงนี้ได้หรือไม่

นายวิทยา แก้วภราดัย กล่าวถึงกระแสข่าว นพ.พิทักษ์ ฐานบัญชา อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 5 จะมาเป็นเลขานุการ ขณะที่นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู จะเป็นที่ปรึกษาฯ ว่า ยังไม่มีชื่อบุคคลใดอยู่ในใจ แต่ 2 รายชื่อ ที่เป็นข่าว หากจะต้องทำงานร่วมกัน ก็ไม่มีปัญหา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook