กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ต้องเผชิญสภาวะอากาศร้อนอบอ้าวรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการจดบันทึกเมื่อ 130 ปีก่อน ท่าม
กลางอุณหภูมิสูงถึง 37.4 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดไฟป่า และมีกลุ่มหมอกควันปกคลุมไปทั่วกรุงมอสโก ทั้งนี้ คลื่นความร้อนแผ่กระจาย
ครอบคลุมพื้นที่ตอนกลางของรัสเซีย และไซบีเรีย มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรเป็นพื้นที่วงกว้างขนาดเท่าประเทศโปรตุเกส ซึ่งกลุ่มกรีนพีซ ระบุว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า โลกร้อน
ด้าน นายเกนนาดี้ เยลีเซเยฟ รองหัวหน้า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของรัสเซีย กล่าวว่า สถิติอากาศร้อนสูงสุด 36.8 องศาเซลเซียส ที่มีการบันทึกไว้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2463 ได้ถูกทำลายลงแล้ว เพราะที่ผ่านมา รัสเซีย ยังไม่เคยบันทึกวันที่มีอากาศร้อนที่สุดมาก่อน อย่างไรก็ตาม สถิติใหม่อาจถูกทำลายด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวกว่านี้ในไม่ช้า
ส่วนราคาธัญพืชในรัสเซีย พุ่งขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากภัยแล้ง โดย กระทรวงเกษตรฯ รายงานว่า ภัยแล้งได้ทำลายพืชผลทางการเกษตร คิดเป็นพื้นที่ถึง 1 แสนตารางกิโลเมตร ขณะที่ กระทรวงเพื่อการฉุกเฉิน ระบุว่า เกิดไฟป่าหลายสิบจุดในบริเวณรอบๆ กรุงมอสโคว์ คิดเป็นพื้นที่เกือบ 200 ไร่ แต่ไฟป่าดังกล่าว ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสนามบินต่างๆ
นอกจากนี้ ทางการรัสเซีย เตือนผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงหมอกควัน เพราะมีระดับคาร์บอนมอนออกไซด์ และไนโตรเจนออกไซด์ในปริมาณที่สูง
