นายกสมาคมโทรคมนาคมหนุนแปลงสัมปทาน2G

นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวในการสัมมนาในหัวข้อกิจการสื่อสารพระราชบัญญัติ กสทช. กับอนาคตประเทศไทยว่า พระราชบัญญัติการจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในเดือนสิงหาคมนี้ ควรมีการปรับเงื่อนไข คณะกรรมการ กสทช. โดยเอาผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการในชุดดังกล่าวด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงปัญหาการทำงานในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อีกทั้งจำนวนคณะกรรมการ 21 คนนั้นถือว่า น้อยเกินไป โดยควรคำนึงถึงผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โดยลดเงื่อนไข อาทิ ให้ระดับผู้บริหารที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ ให้สามารถเข้าสมัครเพื่อเป็น กรรมการ กสทช.ได้

ทั้งนี้ เห็นว่าผู้ที่จะมาคัดสรรคณะกรรมการ กสทช. แตกต่างจากในรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มาจากผู้แทนองค์กรอิสระแต่มาจากกลุ่มต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งมาคำนึงถึงผลประโยชน์ของกลุ่มต่างๆ มากจนเกินไป


พร้อมกันนี้ นายวิชัย ได้กล่าวสนับสนุนการที่รัฐบาล จะแปลงสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในระบบ 2G เพราะถือเป็นสัญญาณที่ดี หลังจากที่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกันกับการสื่อสารโทรคมนาคมตั้งแต่ในอดีต และจะได้เตรียมความพร้อม ทั้งผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการ ที่ขณะนี้ สัญญาสัมปทานได้หมดอายุ ทำให้สามารถที่จะวางแผนทางธุรกิจเข้าร่วมการประมูลใบอนุญาต 3G และประชาชนจะได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึงและครอบคลุม

ขณะที่ หลักเกณฑ์เงื่อนไขการประมูลใบอนุญาต 3G ของ กทช. ตนเห็นว่า ยังควรมีข้อปรับปรุงทั้งในเรื่องของราคาเริ่มต้นการประมูล วิธีการประมูล ที่ควรจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมให้มากที่สุด และสามารถดำเนินธุรกิจได้จริง โดยประชาชนจะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด