ผจว.พิจิตรเรียกถกทำEIAก่อนพัฒนาบึงสีไฟ

ผจว.พิจิตรเรียกถกทำEIAก่อนพัฒนาบึงสีไฟ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าฯ พิจิตร พร้อมด้วย นายอนันต์ พรหมดนตรี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิจิตร ได้เปิดเผย ภายหลังเรียกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบไทยเข้มแข็งที่จะพัฒนาบึงสีไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ ที่มีกรมเจ้าท่า และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้มีอำนาจดูแลบึงสีไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ มีพื้นที่ 5,300 ไร่เศษ ว่าขณะนี้มีมติ ครม.ว่า องค์กร หรือ หน่วยงานใดจะเข้าใช้ประโยชน์ หรือจะพัฒนาบึงสีไฟ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องจัดให้มีการทำประชาพิจารณ์ และจัดทำการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งปรากฎว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็จะทุ่มงบไทยเข้มแข็งลงมา 69 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศาลากลางน้ำที่เป็นอาคารไม้อายุเกือบ 100 ปี โดยจะรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ อีกทั้งจัดสวนขุดต้นไม้เก่าออกปลูกใหม่บริเวณสวนสมเด็จย่า ซึ่งโครงการดังกล่าว แม้แต่ นายประกาศิต ยูวะเวส นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร ซึ่งจะต้องรับมอบเป็นผู้ดูแลต่อ หลังจากสร้างเสร็จก็ยังกล่าวในที่
ประชุมว่า ไม่เคยเห็นแบบที่จะก่อสร้างไม่ทราบขั้นตอนการดำเนินการ

นอกจากนี้ ทางหลวงชนบท ก็จะใช้งบ 65.1 ล้านบาท ขยายถนนรอบบึงสีไฟ ระยะทาง 12 ก.ม. รวมทั้งชลประทานที่จะใช้งบ 10 ล้านบาท เก็บผักตบชวาขุด
ลอกดินเลน 2.7 แสนคิว เพื่อให้บึงสีไฟมีความลึกเพิ่มขึ้น และกลายเป็นแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ำ โดยทุกโครงการล้วนแต่เป็นงบไทยเข้มแข็งทั้งสิ้น ซึ่งจะต้องจัดซื้อจัดจ้างหาผู้รับเหมาให้ได้ก่อนวันที่ 30 ก.ย.2553 นี้ แต่ทุกโครงการกลับไม่รู้ว่า ต้องมีการทำการศึกษาเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถ้าไม่ทำก็ถือว่า ละเมิดมติ ครม. และจะมีผลไปถึงการเบิกจ่ายเงินที่ สตง.เข้ามาตรวจสอบ อีกด้วย จึงทำให้ขณะนี้งบไทยเข้มแข็งกว่า 100 ล้านบาท ของจังหวัดพิจิตร ที่จะใช้พัฒนาบึงสีไฟต่างอลเวงเหมือนไฟลนก้น เพราะยังไม่ได้ทำเรื่องผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook