ปชป.เล็งเล็งนำธาริตเป็นพยานคดียุบพรรค

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค กล่าวผ่านรายการ เปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็มบี แชนแนล โดยปฏิเสธว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทำงานรับใช้นักการเมือง หลัง สั่งไม่ฟ้อง คดีไซฟอนเงิน (Siphon) จนเป็นที่มาของการวิพากษ์วิจารณ์นั้น เพราะคนใน ดีเอสไอปัจจุบันก็เติบโตมาในสมัย รัฐบาลพรรค
ไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน มีอำนาจ ส่วนจะนำผลของคดีนี้ และ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ ไปเป็นพยาน เพื่อต่อสู้ในคดียุบพรรคหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค จะพิจารณา โดยคาดว่า ฝ่ายกฎหมาย จะนัดหารือ ก่อนวันที่ 28 ก.ค.นี้ นายวิรัตน์ ยังยืนยันว่า คดีนี้เกิดจากผู้มีอำนาจระดับสูงใน ดีเอสไอ ยุคนั้น สมคบกับนักการเมือง เพื่อหวัง
ทำลายพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้ ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล จะสั่งย้ายข้าราชการในดีเอสไอทั้งหมดนั้น นายวิรัตน์ มองว่า เป็นเพียงการข่มขู่

สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นระหว่าง ปี 2547-2548 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด(มหาชน) ได้จ่ายเงินค่าจ้าง จำนวน 263 ล้านบาท ให้บริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด จัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในโครงการต่าง ๆ แต่บริษัท เมซไซอะ กลับนำเงินเกือบทั้งหมด ไปจัดทำสื่อโฆษณา ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง