ปปช.ชี้ชวรัตน์ไม่ผิดตามคำร้องถอดถอน
นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องให้ถอดถอน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฐานะปฏิบัติหน้าที่มิชอบในการแต่งตั้งโยกย้าย นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และการแต่งตั้ง นายวิชัย ศรีขวัญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยเห็นว่า การดำเนินการแต่งตั้งดังกล่าว ได้ปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบข้าราชการพลเรือนครบถ้วนถูกต้องแล้ว ส่วนกรณีการกล่าวหาว่า นายชวรัตน์ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของพรรคภูมิใจไทย นำใบสมัครไปแจกจ่ายให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ขณะเดินทางปฏิบัติราชการในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั้น จากการพิจารณาข้อเท็จจริงพบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการ
กระทำของ นายอุทัย แสนแก้ว ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้ง ในนามของพรรคภูมิใจไทย และเมื่อทราบเรื่อง ก็ได้มีการระงับการกระทำและดำเนินการทำลายใบสมัครแล้ว จึงไม่ถือว่า นายชวรัตน์ แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบการทำหน้าที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ พิจารณาข้อเท็จจริง พบว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซง การจัดสรรงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีกว่า 3,000 โครงการ โดยไปขอความเห็นชอบจาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รวมถึงกรณีการร่วมกับ นายศักดิ์สยาม สั่งชะลอการส่งรายละเอียดโครงการขออนุมัติ งบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนจำนวน 1,511 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 1,237 ล้านบาท ตามที่ถูกกล่าวหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติยกคำร้องให้ถอดถอน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่ปกปิดซ่อนเร้นไม่เปิดเผย การรับเงินบริจาค สนับสนุนพรรคการเมืองจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด(มหาชน) เนื่องจากกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงที่ นายประดิษฐ์ ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใด จึงถือว่า ไม่มีมูลความผิด ที่ถูกถอดถอน จากตำแหน่งรัฐมนตรีได้
กระทำของ นายอุทัย แสนแก้ว ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้ง ในนามของพรรคภูมิใจไทย และเมื่อทราบเรื่อง ก็ได้มีการระงับการกระทำและดำเนินการทำลายใบสมัครแล้ว จึงไม่ถือว่า นายชวรัตน์ แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบการทำหน้าที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ พิจารณาข้อเท็จจริง พบว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซง การจัดสรรงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีกว่า 3,000 โครงการ โดยไปขอความเห็นชอบจาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รวมถึงกรณีการร่วมกับ นายศักดิ์สยาม สั่งชะลอการส่งรายละเอียดโครงการขออนุมัติ งบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนจำนวน 1,511 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 1,237 ล้านบาท ตามที่ถูกกล่าวหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติยกคำร้องให้ถอดถอน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่ปกปิดซ่อนเร้นไม่เปิดเผย การรับเงินบริจาค สนับสนุนพรรคการเมืองจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด(มหาชน) เนื่องจากกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงที่ นายประดิษฐ์ ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใด จึงถือว่า ไม่มีมูลความผิด ที่ถูกถอดถอน จากตำแหน่งรัฐมนตรีได้