นายทุนเลี้ยงปลาดุกชุ่ยปล่อยน้ำเน่าลงนา

นายชุมพร นาคงใจ และ นายบุญมี มธุรส รองนายก อบต.กมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม อบต. เข้าติดตามปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรทำนาบ้านสงยาง หมู่ที่ 3 ซึ่งถูกนายทุนเลี้ยงปลาดุก แอบปล่อยน้ำเน่าเสียลงเข้าสู่พื้นที่นาข้าว ส่งผลให้ข้าวไม่โตและเกิดผดผื่นคันตามร่างกาย ทั้งนี้การติดตามเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งก็ยังคงพบว่ามีเกษตรกรหลายสิบราย ที่มีเนื้อที่ติดกับคลองพักน้ำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า คลองน้ำยืน ซึ่งเป็นของชลประทานมีระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ประมาณ 100 ไร่ ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเกษตรกรไม่สามารถที่จะทนกับปัญหานี้ได้
เพราะเจ้าของบ่อปลา ไม่ยอมทำการแก้ไขถึงแม้เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม จะทำการเตือน และแนะนำให้ทำบ่อบำบัดแล้วก็ตาม

ความเสียหายดังกล่าว ยังทำให้ไร่นาชาวบ้านประสบปัญหาข้าวไม่งอก เพราะเกิดจากพิษของน้ำเน่าเสีย จนทำให้หลายครอบครัวต้องทนรับภาระหนี้สิน นางดาวนภา สุขสร้อย อายุ 37 ปี เกษตรกรบ้านสงยาง หมู่ที่ 3 ตำบลกมลาไสย กล่าวว่า ครอบครัวมีอาชีพหลัก คือ ทำนา โดยได้ทำนาข้าวทั้งหมดประมาณ 14 ไร่ ซึ่งระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากนาข้าวไม่ได้ผลผลิต ซึ่งจากเดิมจะได้ข้าวประมาณ 1 ตันต่อไร่ หรือ 40 กระสอบต่อไร่ แต่ปัจจุบันได้เพียงไร่ละ 4-5 กระสอบเท่านั้น เนื่องจากต้นข้าวได้รับน้ำที่เน่าเสียจากบ่อเลี้ยงปลาดุกที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้น้ำเสีย เค็ม ต้นข้าวไม่ออกรวง และล้มตายไปในที่สุด

นางดาวนภา กล่าวต่อว่าจากปัญหาดังกล่าว ได้ขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ระยะเวลา 3 ปี ครอบครัวต้องมีหนี้สินเพิ่มขึ้นหลายแสนบาท เนื่องจากลงทุนทำนาทั้งค่าปุ๋ย ค่าจ้างต่างๆไปแล้วกลับไม่ได้ผลผลิตจึงไม่สามารถนำข้าวไปขายได้ ซึ่งหากสถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปคาดว่าตนจำเป็นที่ต้องขายนาข้าวให้กลับนายทุนอย่างแน่นอน เพื่อนำไปใช้หนี้ เพราะแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหวปัจจุบันปลูกข้าวไว้ก็เป็นเพียงการวัดดวงเผื่อว่าจะได้ผลผลิตบ้าง เพราะไม่มีทางเลือกและไม่มีอาชีพอื่น ซึ่งบางวันก็ไปรับจ้างเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง