นายกฯให้ศอฉ.ตามแหล่งฝึกอาวุธ3จุด

นายกฯให้ศอฉ.ตามแหล่งฝึกอาวุธ3จุด

นายกฯให้ศอฉ.ตามแหล่งฝึกอาวุธ3จุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ด้านการข่าว ยังทราบมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่
ยังคงติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการฝึกอาวุธ 3 จุด นั้น ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
หรือ ศอฉ. คงต้องมีการตรวจสอบและชี้แจงจะดีกว่า เนื่องจาก ตนยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ซึ่งประเด็นข้างต้น
จะสอดคล้องกับกรณีที่ การ์ดคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างชาติว่า มีการฝึกอาวุธจริง

ส่วนกรณีที่ นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ ระบุ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับกลุ่มคน
เสื้อแดง ที่ถูกคุมขัง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ศอฉ. ต้องตรวจสอบและชี้แจง แต่เห็นว่า สภาพการควบคุมตัวเป็นไปตาม
พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เหมือนกับกฎหมายอาญาทั่วไป


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ กล่าวแถลงต่อศาล ในฐานะพยานที่ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ถึงกรณีที่ นายจตุพร สอบถามเรื่องญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ ร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบหาศพในตู้คอนเทนเนอร์ ในทะเลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดย นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้เร่งสั่งการให้ตรวจสอบ แต่ไม่พบว่า มีศพแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเบิกความแล้วเสร็จ ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์อีกในวันพรุ่งนี้ โดยมี นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นพยาน ขณะ นายจตุพร กล่าวภายหลังเบิกความต่อศาลว่า ทนายความในคดีนี้ ได้ขอถอนตัว เนื่องจาก มีปัญหาเรื่องการนัดความและทนายมีคดีที่จะต้องว่าความอีกจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีปัญหากับตนแต่อย่างใด ศาลจึงอนุญาตให้ตน ว่าความด้วยตนเองได้ในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เตรียมหาทนายความมาดูแลคดีแทนทนายที่ถอนตัวออกไปแล้ว


ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ปฏิเสธไม่ทราบกรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุมีการฝึกอาวุธในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา รวมทั้งบริเวณเขตคู้บอน กทม. และ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งไม่ทราบว่า นายเทพไท นำข้อมูลมาจากที่ใด ซึ่งหากมีการให้ ศอฉ. ตรวจสอบนั้น ก็จะดำเนินการให้ ทั้งนี้ยอมรับมีการกังวล เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีการเคลื่อนไหวปลุกระดมในหลายจังหวัด อาทิ จ.นครสวรรค์ ที่มีการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีผู้แสดงตัวแกนนำในระดับอำเภอและตำบล เพื่อให้ร้ายรัฐบาลและบุคคลสำคัญ รวมทั้งให้เตรียมพร้อมก่อเหตุ รวมถึงมีการเคลื่อนไหวในเชิงรุกมากขึ้น ในลักษณะมีพฤติกรรมกระทบต่อสถาบัน แต่ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อประชาชนในพื้นที่แล้ว

นอกจากนี้ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เตรียมเชิญตนเองไปชี้แจง เรื่องการขังผู้ต้องหาในค่ายทหารที่ จ.กาญจนบุรี ว่าตนยังไม่ได้รับหนังสือเชิญ แต่ก็พร้อมที่จะชี้แจง ซึ่งยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการเกินขอบเขตอำนาจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook