พิจิตร แล้งหนัก ถึงขึ้นวิกฤติแล้ว

พิจิตร แล้งหนัก ถึงขึ้นวิกฤติแล้ว

พิจิตร แล้งหนัก ถึงขึ้นวิกฤติแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายธนู โพธิ์เอี้ยง ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้าง 2 สำนักงานชลประทานที่ 3 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชลประทานพิจิตร ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนายอำเภอและผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในเขตลุ่มน้ำยม ซึ่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของชาวนาจังหวัดพิจิตร ถึงสถานการณ์ภัยแล้งของปีนี้ และแนวทางแก้ไขปัญหาของกรมชลประทานในอนาคต โดยในโอกาสนี้ สำนักชลประทานเขต 3 ได้ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำผู้ที่เกี่ยวข้อง บินสำรวจเส้นทางของแม่น้ำยมตลอดทั้งสาย เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงของวิกฤติภัยแล้งที่เป็นเหตุผลต้องให้ชาวนา เลื่อนการทำนาไปถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2553 ซึ่งจากการขึ้นบินสำรวจเส้นทางแม่น้ำยมในครั้งนี้ พบว่า ขณะนี้แม่น้ำยมตลอดทั้งสาย ทั้งในเขต อ.สามง่าม , อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพทะเล และอำเภอบึงนาราง ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ น้ำแห้งขอดตลอดสายถึงแม้จะมีฝนตกลงมาบ้างก็ตาม แต่ปริมาณน้ำฝนยังไม่มีน้ำไหลลงสู่แม่น้ำยม เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามีปริมาณน้อยมาก เพียง 0.3 มิลลิเมตรเท่านั้น ประกอบกับ แม่น้ำยม ยังไม่มีเขื่อนกักเก็บน้ำ ทำให้นาข้าวของชาวนา ในลุ่มแม่น้ำยมที่ชาวนาไม่เชื่อฟังคำเตือนจากภาครัฐ เป็นเหตุให้นาข้าวเสียหายไปแล้วหลายพันไร่ หลังจากนั้น คณะได้เดินทางไปตรวจดูการสร้างเขื่อนยางกั้นแม่น้ำยมที่บ้านจระเข้ผอม ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม โดย นายธนู กล่าวว่า สำหรับการสร้างฝายยางที่อำเภอสามง่าม นั้น ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 95 เปอรเซ็นต์ ใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเก็บกักน้ำได้ทันในฤดูฝนปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งจะสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งในปี 2554 ได้ อย่างไรก็ตามถ้าต้องการให้ชาวนาลุ่มน้ำยมพิจิตร หมดปัญหาเรื่องภัยแล้ง ก็คงจะต้องเสนอให้มีการสร้างฝายยางอีก 2 จุด ในเขต ต.วังจิก และ ต.โพธิ์ประทับช้าง ถ้าทำได้เช่นนี้ก็จะทำให้นาข้าวไม่น้อยกว่า 3 หมื่นไร่สามารถมีน้ำทำนาได้อย่างเพียงพอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook