ส่งออกพุ่ง42.1%โตสูงสุดรอบ22เดือน

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการส่งออกของประเทศ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 ว่า การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 42.1 หรือ คิดเป็นมูลค่ากว่า 16,556 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และสูงสุดในรอบที่ 22 เดือน โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ สินค้าเกษตรกร เช่น ยางพารา ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 133.5 มันสำปะหลัง ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 97.8 น้ำตาลทราย ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 64.4

โดยในส่วนของสินค้าข้าว มีปริมาณการส่งออกลดลง ร้อยละ 12.5 และมูลค่าส่งออกลดลง ร้อยละ 11.5 เนื่องจาก ปัญหาการแข่งขัน ด้านราคากับเวียดนาม ปากีสถาน และอินเดีย และสำหรับสถิติการนำเข้าในช่วงเดือนพฤษภาคม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 55 คิดเป็นมูลค่ากว่า 14,345 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลทำให้ดุลการค้าของประเทศในช่วงเดือนพฤษภาคม ประเทศไทยกลับมาเกินดุลการค้าอีกครั้ง ที่ 2,211 ล้านเหรียญสหรัฐ จากในช่วงเดือนเมษายนที่ประเทศไทย ขาดดุลการค้า 266 ล้านเหรียญสหรัฐ


นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึง สถิติการส่งออกของประเทศ ในช่วง 5 เดือนแรก
ของปีนี้ว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.47 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 75,027 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ การนำเข้าขยายตัว
เพิ่มขึ้น ร้อยละ 54.92 คิดเป็นมูลค่ากว่า 70,972 ล้านเหรียญสหรัฐ ดุลการค้าเกินดุล 4,055 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย
กระทรวงพาณิชย์ จะมีการผลักดันโครงการ กระตุ้นการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และจะมีการทบทวนเป้าหมายการส่งออก
ของประเทศใหม่อีกครั้ง หลังจาก มีตัวเลขการส่งออกของประเทศ ในช่วงเดือน มิ.ย. แล้ว โดยขณะนี้ ยังคงเป้าหมาย
การขยายตัวของการส่งออกในปีนี้ อยู่ที่ร้อยละ 14 หรือ คิดเป็นมูลค่า 170,0000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก ตลาดการส่งออกสินค้า
อาหารไทย แอฟริกา ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างลดลงและวิกฤติหนี้ของอียู ขณะนี้ ยังไม่
ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศ แต่อาจส่งผลในอนาคต ทำให้การส่งออกไปยังตลาดอียู ลดลงร้อยละ 2-3 ได้