ศอฉ.ให้DSIศึกษานิรโทษกรรมเพิ่ม

นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. แถลง ภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. ได้มอบหมายให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทำการศึกษารายละเอียดความเหมาะสมผลดีและผลเสียของกฎหมายนิรโทษกรรมกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระทำความผิดและมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี โดยให้เน้นเรื่องความปรองดอง และประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการสักระยะก่อนนำเข้าหารือและดำเนินการ

เลขาธิการ สมช. ยังกล่าวว่า ทาง ศอฉ. ได้พิจารณาถึงการยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 7 กรกฎาคม นี้ โดยให้ทุกหน่วยงานพิจารณา ถึงเหตุผลและความจำเป็น ของแต่ละพื้นที่ ว่าจะให้ยกเลิก หรือขยายเวลาต่อออกไปหรือไม่ โดยจะพิจารณาให้แล้วเสร็จ ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ในวันที่ 6 กรกฎาคม นี้

นายถวิล กล่าวว่า ในประเด็นเรื่องการดำเนินธุรกรรม ที่ ศอฉ. มีคำสั่งห้ามไว้152ราย และขอให้สถาบันการเงิน แต่ละแห่งส่งข้อมูลมายังศอฉ. ซึ่งขณะได้รับรายงานธุรกรรมย้อนหลัง 9 เดือนแล้ว พบว่ามี86รายซึ่งขอสงวนชื่อมีพฤติกรรมน่าสงสัย แต่มิได้หมายความว่าจะมีความผิด ซึ่งจะเรียกมาชี้แจงว่ามีธุรกรรมอย่างไรและเหตุผลอย่างไร

ทั้งนี้ ทาง ศอฉ. จะจะตั้งคณะกรรมการเป็น 8 ชุด มาจาก ดีเอสไอ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร เพื่อสอบสวนทั้ง86รายโดยหากทำเรื่องเสร็จก็จะเชิญมาชี้แจงในวันพรุ่งนี้ และจะให้เสร็จเร็วที่สุดซึ่งหากพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องก็จะถูกตัดออกไปจากรายชื่อเช่นเดียว ​กลุ่มคนและนิติบุคคลนอกหนือจาก86 ราย ใน 152 ราย ​

ส่วนคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากที่ได้ตรวจสอบ มีหมายจับใน 5 คดี ได้แก่ คดีที่ดินรัชดา กล้ายาง หวยบนดิน เอ็กซ์ซิมแบงก์ และก่อการร้าย ซึ่ง ศอฉ.จะมีแนวทางติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยจะรวม 5คดี ด้วยกันและทำงานร่วมกันกับ ดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ​ อัยการ ซึ่งจะรวมคดีทั้งหมด ให้มีความเชื่อมโยงกันเพื่อทำให้มีความคืบหน้าในการติดตามตัวมากขึ้น