จุติเชื่อซื้อดาวเทียมคืนไม่น่ามีปัญหา

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวถึง การซื้อดาวเทียมไทยคมคืน จากบริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงคโปร์ว่า หากมีการซื้อคืนกลับมา หน่วยงานของรัฐก็ต้องเป็นผู้ดูแลบริหารงานต่อไปให้ได้ ซึ่งนี้สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ กรณีที่ ไทย เคยมีดาวเทียม 5 ดวง แต่ขณะนี้เหลือเพียง ดวงเดียว หากดำเนินการโดยพลีพล่าม ก็จะเกิดปัญหาต่อผู้ที่อาศัยดาวเทียมได้ ซึ่งจะทำด้วยอารมณ์ไม่ได้ แต่ต้องทำด้วยเหตุผล ขณะที่ เรื่องการรักชาติ หรือ ชาตินิยม ก็เป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลต้องรักษาไว้ด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การเจรจากับ เทมาเส็ก ที่มีหุ้นส่วนเป็นของรัฐบาลสิงคโปร์ด้วยนั้น รวมทั้ง เรื่องความสัมพันธ์ที่ดีของ ทั้ง 2 ประเทศ หากเจรจากันจริง ก็จะสามารถพูดคุยกันได้

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวอีกว่า ตนได้กำหนดกรอบให้คณะทำงาน 21 วัน ที่ต้องสรุปความเห็นให้กับตนก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม หากมีการผิดสัญญา ก็จะต้องดำเนินการเพราะหากไม่ทำ ตนก็จะผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157



ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ดูแลด้านสื่อสารมวลชน เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายกรัฐมนตรี วานนี้ ว่าได้มีการพูดคุยกันถึงการซื้อดาวเทียมไทยคมคืนจาก เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ โดยมองในเรื่องของความมั่นคงเป็นหลัก ซึ่งได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูในรายละเอียดของการซื้อขาย รวมถึง พิจารณาวิธีการต่าง ๆ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และให้มีความเหมาะสมมากที่สุด ส่วนกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปประเทศสิงคโปร์นั้น เข้าใจว่า เป็นการไปพูดคุยในเรื่องทั่วไป ยังไม่ถึงขั้นตัดสินใจ

นอกจากนี้ นายองอาจ กล่าวด้วยว่า เป็นหน้าที่ของ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ซึ่งจะต้องตรวจสอบการละเมิดสัญญาสัมปทาน กรณีที่ บริษัทไทยคม อนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ พีเพิล แชนแนล (People Channel) ออกอากาศ ภายใน 21 วัน