คุมชาวโคลอมเปียฉก12ลบ.ฝากขังผลัดแรก

ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ควบคุมตัว นายโอมาร์ จีโอวานนี่ โรดิเกวซ อาโพเต้ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาชาวโคลอมเบีย ร่วมก่อเหตุทุบกระจกรถ ชิงเงินสด 12 ล้านบาท บริเวณหน้า ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ ยื่นคำร้องฝากขัง ผลัดแรกที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังเจ้าหน้าที่ สามารถติดตามจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีอยู่ภายในหอพัก ซอยรามคำแหง 65 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ โดยทำลายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคล หรือ ทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม หรือ กระทำให้เสียหายนั้น

ด้าน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า สำหรับ นายโคเฮ มิเกล ซาเมียนโต้ ผู้ต้องหาชาวโคลอมเบีย อีก 1 ราย ล่าสุด จากการตรวจสอบ ได้หลบหนีอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสากล เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายแล้ว โดยเชื่อว่า จะมีการจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน เนื่องจาก มีพยานหลักฐานชัดเจน


ล่าสุด พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา ที่ร่วมกันก่อเหตุทุบกระจกรถ ขโมยเงิน 12 ล้านบาท หน้าธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ ได้อีก 1 คน คือ นางคาร์เลีย มาริอา คอร์เล อาโดโน่ ภรรยาของผู้ต้องหาชาวโคลัมเบีย ที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ ขณะที่เดินทางมาเยี่ยมที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ที่ผ่านมา เนื่องจากมีพยาน ซึ่งเป็น รปภ.ของธนาคาร ยืนยันว่า อยู่ร่วมกัน ขณะก่อเหตุ โดยในตัวยังพบธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 100,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบว่า เป็นเงินจำนวนดังกล่าว เป็นเงินล็อตเดียวกับเงิน 12 ล้านบาท หรือไม่ นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุเมธ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ นายวิลสัน ฟาราเมนโต้ ผู้ร่วมก่อเหตุ อีก 1 คน มาดำเนินคดี ซึ่งเชื่อว่า น่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย