เพื่อไทยให้จับตาประชุมก.ตร. 14 มิ.ย.นี้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ข้อเรียกร้องของพรรค ที่มีต่อการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย. นี้ว่า ทางพรรคได้เรียกร้องให้ คณะกรรมการที่จะเข้าร่วมประชุม ทำหน้าที่เป็นแกนนำหลักและยืนยันว่า จะไม่ยอมก้มหัวให้ใคร เพื่อผดุงความยุติธรรมและคืนเกียรติยศศักดิ์ศรีให้ข้าราชการตำรวจ ที่ถูกย้ำยีตลอดหลายปีมานี้ สำหรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ที่จะเป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ทางพรรคเพื่อไทย ได้เรียกร้องให้นายสุเทพ ยึดหลักความยุติธรรม รวมทั้ง เคารพเสียงในการประชุม พร้อมกันนี้ทางพรรคได้ตั้งข้อสังเกตว่า จะมีการเสนอแต่งตั้งนายตำรวจ ยศ พล.ต.อ. หรือสบ 10 เพิ่ม ก็อาจเป็นการตอบแทนตำรวจบางคน ที่ใกล้ชิดนายสุเทพ หรือไม่อีกด้วย
เพราะเรื่องดังกล่าวถือว่า ไม่สำคัญเท่ากับการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตัวจริง ส่วนการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น จะแต่งหรือไม่ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะเวลาได้ล่วงเลยมาถึงขณะนี้แล้ว แต่ที่สำคัญจะได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของตำรวจไทยด้วยเพราะ ประเทศไทยไม่เคยมีรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้นานขนาดนี้

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังเปิดเผยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้หารือร่วมกัน กรณีที่ ทหาร ออกมารุ้มค้านการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ทางพรรคได้ตั้งคำถามว่า วันนี้ ประเทศไทย ยังปกครองในระบอบประชาธิปไตย แบบที่รัฐบาลมาจากประชาชน หรือ ใช้ระบอบเผด็จการแบบทหารปกครอง นอกจากนี้ นายจิรายุ ได้กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการชุมนุมและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้ถ่ายภาพและคลิปวิดีโอ เพื่อร้องเรียนมาที่พรรคว่า มีการล่ามโซ่ ใส่กุญแจเอาไว้กับเตียงคนไข้ จำนวน 7 คน ซึ่งเรื่องนี้ ญาติที่มาพบเห็นถึงกับร้องไห้ เนื่องจากรู้สึกว่า ทำกับผู้ชุมนุมไม่เหมาะสม และยังพบว่า มีผู้ชุมนุมถูกกระทำเช่นนี้อีกหลายคนที่อยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ โดย นายจิรายุ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ยังไม่เป็นผู้ต้องหา ถูกกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร ส่วนการที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ออกมากล่าวอ้างว่า ต้องทำเช่นนี้ เนื่องจาก มีคดีเก่าอยู่ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้าง ที่ไม่มีความชัดเจน โดยจากนี้ ทางพรรคจะรวบรวมหลักฐานดังกล่าว เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ให้มาตรวจสอบในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นี้ ต่อไป

นอกจากนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยถึงกระบวนการพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า หากพิจารณาออกมาว่า ไม่ยุบพรรค ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สังคมจะเป็นผู้ตอบเอง
ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ก็คงไม่รู้สึกตื่นเต้น แต่รู้สึกอีกมุมหนึ่งที่จะได้เห็นคำว่า ความยุติธรรมไม่มีจริงในยุคนี้ ทั้งที่ในความจริง ทางพรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยกันก่อนการชุมนุมว่า โอกาสที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะถูกยุบมีสูง เพราะมีหลักฐานชัดเจน ซึ่งหากรัฐบาลอยู่ได้ ก็ถือว่าพลิกความคาดหมาย ทั้งนี้ นายจิรายุ เปิดเผยว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการระดมนักกฎหมายที่เก่งและมีความสามารถ เพื่อติดตาม ทั้ง 2 คดี คือ เงินบริจาค 258 ล้านบาท และ 29 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการตั้งในลักษณะวอร์รูม เพื่อติดตามกระบวนการพิจารณาอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ นายจิรายุ ได้กล่าวถึง กรณีที่ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาลออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มีเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ออกมาใช้ในการชุมนุมที่ผ่านมานั้น ในวันนี้ หากเข้าไปดูในอินเทอร์เน็ต ก็จะพบว่าได้ให้ ฉายา ดร.ปณิธาน ว่า เป็นอาจารย์โคมแล้ว เพราะตั้งแต่ ดร.ปณิธาน ได้รับตำแหน่งและเป็นถึง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่กลับพูดแบบลอย ๆ จนอาจรู้สึกว่า ไม่มีข่าวไหนน่าเชื่อถืออีกด้วย