ทหารพรานหญิง ลากลับบ้านช่วงรอมฎอน คนร้ายแฝงตัวยิงกลางตลาด ตายต่อหน้าลูก
ทหารพรานหญิง ลาพักช่วงรอมฎอน คนร้ายแฝงตัวยิงกลางตลาด ตายต่อหน้าลูก ผู้บังคับบัญชาเคยเตือนเรื่องกลับบ้าน
วันนี้ 28 มี.ค. 67 เวลา 17.30 น. เกิดเหตุสลด คนร้ายบุกหญิง ทหารพรานหญิง นอนเสียชีวิตคาที่ ภายในตลาดนัดดุซงญอ ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
เมื่อตำรวจไปตรวจสอบ พบศพ อส.ทพ.หญิง นูรีซัน พรหมศรี อายุ 35 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ช่วยราชการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นอนเสียชีวิต ในลักษณะคว่ำหน้า จมกองเลือด
จากข้อมูล ผู้เสียชีวิต อยู่ระหว่างลาพัก ไปช่วยญาติขายของอยู่ที่ ตลาดนัดดุซงญอ ตำรวจตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ตกอยู่ ห่างจากศพ ประมาณ 2 เมตร ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิต ส่งโรงพยาบาลจะแนะ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพ และมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
จากการสอบถาม น.ส.อามีเนาะ ญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ ในระหว่างที่ ผู้เสียชีวิต กำลังขายซุปเนื้ออยู่นั้น ได้มีคนร้าย 3 คน เดินแฝงตัวมาในกลุ่มชาวบ้าน ทำทีซื้ออาหารเตรียมละศีลอด แต่เมื่อได้โอกาส หนึ่งในคนร้ายใช้ปืนขนาด 9 มม. รัวยิงใส่ประมาณ 4-5 นัด จนเสียชีวิต พอลูกมาเห็นศพแม่ก็ร้องลั่นด้วยความตกใจ
มีรายงานว่า ปกติในช่วงลาพัก ผู้ตายจะไม่กลับบ้านมาสักระยะแล้ว แต่ในห้วงรอมฎอนครั้งนี้ ผู้ตายได้กลับไปที่บ้าน ในพื้นที่ ม.5 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เพื่อครอบครัวและลูกสาว รวมทั้งไปขายซุปที่ตลาดจุดเกิดเหตุ โดยผู้ตาย รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าหมาย ของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เนื่องจากผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งกลุ่มก่อเหตุรุนแรงกลัวว่า จะนำข้อมูลไปเปิดเผยกับหน่วยงาน ที่ผ่านมาทางผู้บังคับบัญชา เคยเตือนแล้วว่า ให้หลีกเลี่ยงการกลับไปบ้าน ที่ดุซงญอ
ในช่วงปลายปี 66 น้องชายของผู้ตาย ก็เคยถูกกลุ่มคนร้ายลอบยิง จนเสียชีวิตมาแล้ว ทำให้ผู้ตายได้ทำเรื่องขอย้ายไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มาหลายปีแล้ว
ทางด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการด่วนไปยังทุกหน่วยในพื้นที่ 3 จชต. และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ให้ ผบ.ฉก.หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ กำชับกำลังพลซึ่งอยู่ในช่วงลาพัก ให้เพิ่มความระมัดระวัง เป็นกรณีพิเศษในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ขณะนี้ตำรวจ อยู่ระหว่างการสืบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี