นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า แบ่งความผิดกรณีหมิ่นเบื้องสูงไว้ 3 ระดับ คือ ระดับแรก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงผิด เข้าใจผิดในข้อมูล ก็จะเป็นการว่ากล่าวตักเตือน ระดับ 2 คือ จงใจทำผิดโดยมีการถูกจ้างหรือเจตนาไม่ดีอย่างจริงจัง และระดับ 3 เป็นการตั้งใจทำอย่างเป็นกระบวนการ โดยมีวัตถุประสงค์ไม่ชอบ
เรื่องนี้ไม่เหมือนในหลายประเทศ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยเป็นยิ่งกว่าสัญลักษณ์ เพราะเป็นสถาบันที่ทำให้ชาติไทยเป็นชาติไทย ได้ทุกวันนี้ ฉะนั้นจึงได้จัดความผิดไว้ในหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ ขณะที่ประเทศอื่นๆ จัดไว้ในหมวดหมิ่นประมาท เพราะสำหรับประเทศไทยเป็นการกระทำที่กระทบความมั่นคงอย่างรุนแรง นายพีระพันธุ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ปิดเว็บไซต์ไปกว่า 2,000 เว็บ แต่การจับกุมคนทำเว็บไซต์ สามารถทำได้ยาก เนื่องจากกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่ได้ระบุความผิดไว้โดยเฉพาะและมีหลายจุดที่คลุมเครือ ต่อไปจึงต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าอีกซักระยะหนึ่ง เว็บหมิ่นเบื้องสูงจะลดน้อยหรือไม่มีเลย
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ขอฝากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเผยแพร่พระเกียรติยศของในหลวง ซึ่งเป็นข้อมูลจริง เพื่อให้คนไทยและชาวโลกได้รับรู้มากขึ้น