รถยนต์จะขายดี...?

รถยนต์จะขายดี...?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สัญญาณฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ส่งซิกให้เห็นกันแบบชัด ๆ จากยอดการผลิต 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 231,689 คัน มีอัตราการเติบโตสูงถึง 73.53% ส่วนยอดการผลิตรถยนต์ของเดือน ก.พ. เพียงเดือนเดียวทะลุ 127,849 คัน ทุบสถิติสูงสุดในรอบ 20 เดือน ส่วนยอดขายในประเทศ เดือน ก.พ. อยู่ที่ 54,175 คัน เมื่อรวมตัวเลข 2 เดือนยอดขายมากกว่า 103,738 คัน หรือมีอัตราการเติบโตสูงถึง 56% ตัวเลขการผลิต และขายในประเทศสูงกว่าที่หลายหน่วยงานคาดการณ์มากกว่า 10%

ยอดการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มต่อเนื่อง ปัจจัยหลัก คือคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาแบบทะลักทะล้น เพราะอั้นมาแล้วเป็นปีหลังจากที่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ การส่งออกรถยนต์ทรุดลง ยอดขายในประเทศนิ่งสนิทมาเกือบปี แต่ปีเสือปีนี้ ตัวเลขที่โชว์ออกมา กูรูยานยนต์ รวมไปถึงค่ายรถยนต์ต่างมีความหวังอย่างแรง ว่าจะเป็นปีทองของอุตสาหกรรม ยานยนต์ไทย จะสามารถไต่ระดับกลับไปบูมอีกครั้งเช่นเียวกับปี 51 ที่มียอดการผลิตสูงถึง 1.38 ล้านคัน

สำหรับเป้าหมายของปี 53 คาดว่าจะผลิตรถยนต์รวมได้ที่ 1.43 ล้านคัน แบ่งเป็นส่งออก 830,000 คัน และขายในประเทศอีก 600,000 คัน และมากกว่านั้น ไทยจะผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย หรือ ดีทรอยต์ ออฟ เอเชีย ในปี 58 โดยมียอดการผลิตขึ้นไปที่ 2 ล้านคัน แม้จะล่าช้ากว่าแผนที่ตั้งเป้าไว้ในปี 55 ก็ตาม

นอกจากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมรายได้ในประเทศ (จีดีพี) ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตระหว่าง 3.5-4.5% คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น และความต้องการซื้อรถในประเทศก็เติบโตต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว ประกอบกับที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถอีโคคาร์ และคาดว่า นิสสันจะส่งออกนิสสันมาร์ชได้ในครึ่งปีหลัง ปัจจัยบวกเหล่านี้ ล้วนเป็นกำลังหนุนส่งให้อุตสาหกรมยานยนต์ของไทยพุ่งขึ้นไปสู่ดวงดาวได้ไม่ยาก

แต่ผู้ประกอบการยานยนต์ยังอดหวั่นใจไม่ได้กับก้างชิ้นใหญ่ ที่จะเป็นตัวแปร สำคัญให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องชะงักงัน ไปได้ไม่ถึงไหน นั่นคือ ปัญหาการเมือง ที่ยังไม่มีความชัดเจน ต่างมองไว้ 2 มุม คือ หากสถานการณ์ทรง ๆ ตัวเช่นทุกวันนี้ ย่อมไม่เป็นอุปสรรคตัวเลขการขาย 600,000 คัน จะผ่านไปได้สบาย ๆ อีกมุมหนึ่ง ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มีความรุนแรง กระทบกระทั่งจนเลือดตกยางออก อย่างนี้ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นต้องรอลุ้นว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะออกมาเป็นบวก หรือลบ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook