ผวาบาททะลุ 31 บาทต่อดอลลาร์

นักค้าเงินธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินสกุลเงินบาทยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะหลุดกรอบค่าเงินบาทกลางปีที่ประเมินไว้ที่ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ได้ ดังนั้นในช่วงสิ้นเดือน มี.ค.นี้ จึงเตรียมที่จะปรับกรอบค่าเงินบาทระดับกลางปีนี้ใหม่ เนื่องจากสัญญาณอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่ไม่ปรับตัวขึ้นในระยะนี้อย่างแน่นอน และหากค่าเงินบาทหลุดจากกรอบที่ระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์แล้วนั้น ก็มีโอกาสที่จะแข็งค่าต่อเนื่องที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ได้ และจะเข้าสู่การคาดการณ์ค่าเงินบาทในสิ้นปีนี้ที่จะแข็งค่าแตะ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ได้

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าตั้งแต่ต้นปีเป็นการแข็งค่าขึ้นตามค่าเงินในแถบภูมิภาคเอเชียที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับค่าเงินสกุลดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐ กิจของประเทศในแถบทวีปเอเชียในปี 53 จะโดดเด่นกว่าสหรัฐ และยุโรป ซึ่งสะท้อนมาสู่ปัจจัยที่ 2 ที่ทิศทางการไหลเข้าของเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อเนื่อง

ปัญหาทางการเมือง น่าจะกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่ให้มีเงินไหลเข้ามามากนัก แต่จากที่การชุมนุมไม่มีความรุนแรง ความมั่นใจจึงไม่ได้หายไป

นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0-0.25% เป็นไปตามตลาดคาดกาณ์ ซึ่งส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำยังจำเป็นต่อสหรัฐ เพราะความเสี่ยงการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังมีอยู่มากทั้งในเรื่องอัตราการว่างงานที่สูง และตัวเลขการปล่อยสินเชื่อไม่ได้เพิ่มมากนัก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยาวมีแนวโน้มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้น ดังนั้นการคงดอกเบี้ยสหรัฐจะช่วยตอกย้ำเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง.