ปณิธานบอกแดงเทเลือดไม่ควร-คุมเข้ม38จุด

ปณิธานบอกแดงเทเลือดไม่ควร-คุมเข้ม38จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำเลือดไปราดที่บริเวณประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาลและที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องที่ไม่น่าทำ ซึ่งรัฐบาลมีความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพอนามัยของผู้ชุมนุมมากกว่า ทั้งนี้หากผู้ชุมนุมมีปัญหาเรื่องสุขภาพรัฐบาลก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มจะเดินทางไปราดเลือดที่บ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น ขอให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ประสานเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า รัฐบาลมีความกังวลว่าอาจจะมีคนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางสันติจนอาจก่อความรุนแรงขึ้น
ดังนั้นตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ได้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่เข้มงวดขึ้น แต่จะมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ต่อภายหลังพ้นกำหนดในวันที่ 23 มีนาคม หรือไม่นั้น รัฐบาลจะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียร้อย หรือ ศอ.รส.กล่าวภายหลังการประชุม ศอ.รส. ว่า มีการประเมินว่า ขณะนี้ ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงมีจำนวนลดลง ตามที่แกนนำประกาศ โดยอาจกลับต่างจังหวัด และอาจจะมีการตั้งเวที หนึ่งมีการมอบหมายให้ใช้กำลังตำรวจภูธรแต่ละจังหวัดรวมกับอาสาสมัคร และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนดูแลเป็นหลักทั้งนี้ ศอ.รส. กังวลตามที่สายข่าวประกอบด้วยตำรวจสันติบาล สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ รายงานตรงกันว่าในขณะนี้ต้องมีความระมัดระวังว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง จึงมีการปรับกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลดูแลบ้านพักบุคคลสำคัญในระยะ 400 เมตร เนื่องจากมีการยิงปืน M79 บ่อยครั้ง ส่วนทหารนั้นมีการเพิ่มสายตรวจมากขึ้น 28 เส้นทางเป็นเครือข่ายใยแมงมุมและมีจุดตรวจตาม 38 จุดเสี่ยง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถป้องกันป้องปรามเหตุร้ายได้ทั้งกลางคืนและกลางวันอย่างไรก็ตาม ศอ.รส. ยืนยันว่าไม่มีการมอบให้เจ้าหน้าที่ติดตามข่าวสารจากสื่อมวลชนตามที่มีบุคคลลึกลับโทรศัพท์เข้าไปยังสำนักข่าวแห่งหนึ่งเพื่อสอบถามข่าวสาราต่างๆ เนื่องจากเมื่อสื่อมวลชนมีข่าวใดก็จะแจ้งให้กับ ศอ.รส.ทราบอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องย้อนถามกลับไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook