ไฟเขียวอุ้มโรงสีอัพค่าเช่าโกดัง

ไฟเขียวอุ้มโรงสีอัพค่าเช่าโกดัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์ค ไฟเขียวอุ้มโรงสี อัพค่าเช่าโกดัง เป็นตันละ 75 บาท พร้อมชดเชยดอกเบี้ย 2% หวังเพิ่มทางเลือกชาวนาไม่ถูกกดราคาข้าว ขณะที่ ชาวนากำแพงเพชร รวมพลประท้วงหน้าที่ว่าการอำเภอ ประกาศให้เวลารัฐบาล 7 วัน แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ขู่ไร้คำตอบที่พอใจ ปิดถนนสายเอเชียประท้วงยาว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ชาวนากว่า 300 คน จาก 5 อำเภอใน จ.กำแพงเพชร ประกอบด้วย อ.เมือง อ.คลองขลุง อ.ไทรงาม อ.ทรายทอง และ อ.บึงสามัคคี เดินทางมาชุมนุมประท้วงหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชร โดยนำรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงมาปราศรัยโจมตีรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยเรียกร้องขอพบนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เพื่อขอคำยืนยันชัดเจนในเรื่องราคาข้าว ต่อมานายวันชัย สุทิน ผวจ.กำแพงเพชร เดินทางมาเจรจา และชี้แจงปัญหาต่าง ๆ พร้อมขอให้กลุ่มชาวนารอคำตอบเรื่องการแก้ปัญหาจากรัฐบาล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยอมรับจะรอคำตอบใน 7 วัน หากไม่ได้รับคำตอบที่พอใจ จะรวมตัวกันปิดถนนสายเอเซียจนกว่ารัฐบาลจะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จากนั้นได้สลายตัวไป

นายวิเชียร พันธ์โตดี กรรมการชมรมชาวนาภาคกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมชมรมชาวนาภาคกลาง 20 จังหวัด เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้ยุติการชุมนุมกดดันรัฐบาลในการแก้ปัราคาข้าวตกต่ำเป็นการชั่วคราว รวมถึงไม่เดินทางการชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์วันที่ 11 มี.ค.นี้ด้วย เนื่องจากชมรมมีจุดยืนต้องการแก้ปัญหาชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง ไม่ได้มีเจตนายุ่งการเมืองหรือเข้าไปมีส่วนร่วมกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง รวมทั้งเพื่อให้ เป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยจะรอถึงวันที่ 20 มี.ค.นี้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น จะประชุมกำหนดท่าที กดดันรัฐบาลอีกครั้ง

ด้าน นางพรทิวา นาคาศัย รมว. พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำข้อสรุปที่ได้จากการหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และสมาคมโรงสีข้าวไทยเกี่ยวกับการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกนาปรังปี 2553 เสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบแล้ว โดยได้เพิ่มมาตรการสนับสนุนเงินช่วยเหลือให้กับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการของรัฐ โดยเพิ่มอัตราค่าเช่าโกดังให้กับโรงสีจากตันละ 55 บาทต่อเดือน เป็นตันละ 75 บาท และจัดหาแหล่งเงินทุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงินให้กับโรงสี เชื่อว่ามาตรการนี้จะเพิ่มแรงจูงใจให้โรงสีเปิดจุดรับซื้อข้าวกับเกษตรกรเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์และสถานการณ์ข้าวจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า

ขณะที่ นางจินตนา ชัยยวรรณาการ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า รัฐบาลจะดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรายละ 2% และจ่ายค่าจัดเก็บข้าวเปลือกเพิ่มใน 3 เดือนแรก เป็นตันละ 75 บาท พร้อมเงื่อนไขหากไม่ระบายหรือจำหน่ายข้าวออกใน 3 เดือน รัฐจะจ่ายค่าจัดเก็บเพิ่มแบบก้าวหน้าเพิ่มอีกตันละ 40 บาทต่อเดือน หรือ 115 บาท เพื่อเป็นค่าพลิกกองข้าว แต่การจ่ายค่าจัดเก็บข้าว รัฐบาลจะไม่จ่ายเป็นเงินสด จะให้โรงสีหักจากข้าวเปลือกที่ฝากจัดเก็บแทน

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จะปรับเกณฑ์การพิจารณาราคาอ้างอิงให้ทันสมัยขึ้น โดยประกาศทุกวันจันทร์ แทนของเดิมประกาศทุก 15 วัน พร้อมนำราคาจากตลาดโลกเขามาคำนวณ ส่วนการระบายข้าวที่รับซื้อมีแผนระบายผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าภายใน 3 เดือน หรือให้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการเป็นผู้ ซื้อก่อนอันดับแรก ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโรงสีที่เข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น และเป็นทางเลือกให้ชาวนาขายข้าวโดยไม่ถูกกดราคา จากปัจจุบันที่มีโรงสีเข้าร่วม 54 แห่ง ใน 16 จังหวัด.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook