สศค.วอนเคารพคำตัดสินศาลคดียึดทรัพย์
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่จะมีขึ้น ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ว่า โดยส่วนตัวแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายเคารพต่อคำตัดสินของศาล ซึ่งจะเป็นผลดีกับประเทศ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ถ้าสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบ ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้น และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนปัญหาด้านการเงินของประเทศกรีซ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ โดยรวมของกลุ่มประเทศอียูที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในวงจำกัด เพราะสัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศอียูค่อนข้างน้อย การส่งออกและนำเข้า ค่อนข้างต่ำ จึงได้รับผลกระทบไม่มาก แต่ต้องติดตามสถานการณ์ว่า กลุ่มอียูจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร หากลุกลามออกไปในวงกว้าง หรือถ้ากลุ่มอียูไม่สามารถควบคุมปัญหาได้ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งขณะนี้ ยังคงเชื่อมั่นการลงทุนในไทย แม้ว่า จะมีปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองในประเทศ โดยหากประเมินจากค่า GPS พบว่า อันดับความเสี่ยงของไทยอยู่ที่ 117 จุด มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับกรีซ ซึ่งมีอันดับความเสี่ยง อยู่ในอันดับ 340 จุด
ส่วนปัญหาด้านการเงินของประเทศกรีซ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ โดยรวมของกลุ่มประเทศอียูที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในวงจำกัด เพราะสัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศอียูค่อนข้างน้อย การส่งออกและนำเข้า ค่อนข้างต่ำ จึงได้รับผลกระทบไม่มาก แต่ต้องติดตามสถานการณ์ว่า กลุ่มอียูจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร หากลุกลามออกไปในวงกว้าง หรือถ้ากลุ่มอียูไม่สามารถควบคุมปัญหาได้ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งขณะนี้ ยังคงเชื่อมั่นการลงทุนในไทย แม้ว่า จะมีปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองในประเทศ โดยหากประเมินจากค่า GPS พบว่า อันดับความเสี่ยงของไทยอยู่ที่ 117 จุด มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับกรีซ ซึ่งมีอันดับความเสี่ยง อยู่ในอันดับ 340 จุด