บรรหารเดินหน้าพัฒนาสถาบันการพลศึกษา

บรรหารเดินหน้าพัฒนาสถาบันการพลศึกษา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกสภาสถาบันการพลศึกษา เป็นประธานประชุม สภาสถาบันการพลศึกษา ครั้งที่ 39 ประจำ ปี 2553 เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ห้องประชุม สำนักงานอธิการบดี สถาบันการพลศึกษา โดยมีนายสมพงษ์ ชาตะวิถี อธิการบดีสถาบันการพลศึกษา, พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผอ.สพก. และนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. เข้าร่วมประชุม

สำหรับการประชุมมีการรายงานจำนวนนักกีฬาในสังกัดสถาบันการพลศึกษา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 เวียงจันทน์เกมส์ ที่ประเทศลาว ซึ่งมีนักกีฬาเข้าร่วม 95 คน จาก 14 ชนิดกีฬาและได้รับเหรียญรางวัลจำนวน 84 เหรียญ เป็นเหรียญทอง 19 เหรียญ เหรียญเงิน 17 เหรียญ และเหรียญทองแดง 12 เหรียญ โดยทางสถาบันฯ จะมอบรางวัลแก่นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาแต่งตั้งผู้ช่วยธิการบดีสถาบันการพลศึกษา ประจำวิทยาเขตอุดรธานี โดยที่ประชุมได้เห็นชอบให้ นายวีระพันธ์ กาหาวงษ์, นายเติบโต คติพจน์, นายธรณ์เทพ เขียนประสิทธิ์, นายสมบัติ ทองณรงค์ และนายธนา กิติศรีวรพันธุ์ เข้ารับหน้าที่ ผู้ช่วยอธิการบดี ประจำวิทยาเขตอุดรธานี และยังมีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมควรดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬา ซึ่งมีประสบการณ์ที่สถาบันฯ รับรองน้อยกว่า 10 ปี โดยไม่เป็นไปตามคุณสมบัติข้อบังคับของสภาสถาบันการพลศึกษา ได้แก่ นายสมชัย นิธิสกุลกาญจน์ จ.นครศรีธรรมราช, นายซีอัลวาห์ หลง จ.ยะลา, นายสงคราม กานา และนายสุดใจ ดอนเตาเหล็ก จ.ศรีสะเกษ, นายวุฒิศักดิ์ ชูชื่น จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติให้บุคคลดังกล่าวสามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้

ส่วนการขอเปลี่ยนโปรแกรมวิชานันทนาการเชิงพาณิชย์และการท่องเที่ยว เป็นสาขาวิชานันทนาการและการท่องเที่ว และเปิดสอนในคณะศิลปศาสตร์ เพื่อให้บัณฑิตสามารถขอใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ได้นั้น ทางที่ประชุมและสถาบันการพลศึกษาได้ตอบรับให้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เรียบร้อยแล้ว

นายบรรหาร เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นนายกสภาสถาบันการพลศึกษา จำเป็นจะต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยทั้งด้านการบริหารงาน สถานที่ และบุคลากร ของสถาบันในสังกัดพลศึกษา ซึ่งวางแผนจะไปให้ครบทั้ง 17 วิทยาเขต และโรงเรียนกีฬาอีก 11 แห่ง เพื่อที่จะปรับปรุงสถาบันในสังกัดให้พัฒนายิ่งขึ้น โดยในวันที่ 5 มิ.ย. จะเดินทางไปตรวจสอบที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตพนมสารคาม และโรงเรียนกีฬา จ.ขอนแก่น เป็นลำดับแรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook