คณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว หรือซีพีเจ ซึ่งสำนักงานตั้งอยู่ในนิวยอร์ก เผยแพร่ผลการสำรวจประจำปี ที่นำออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่า ปี 2552 กลายเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้สื่อข่าว เนื่องจากมีผู้สื่อข่าวถูกฆ่าทั่วโลกรวมกันมากที่สุดเป็น ประวัติการณ์ถึง 71 ศพ ระหว่างการทำงานในพื้นที่ ซึ่งรวมทั้ง 33 ศพ ในเหตุการณ์ฆ่าหมู่ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์
รายงานว่าด้วยการโจมตีสื่อมวลชน ปี 2552 ความยาว 350 หน้า ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้สื่อข่าวเสียชีวิตมากเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว คือเหตุสังหารหมู่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในจังหวัดมากินดาเนาของฟิลิปปินส์ และเหตุความรุนแรงในโซมาเลีย ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตของปีที่ผ่านมาสูงกว่าสถิติครั้งก่อนเมื่อปี 2550 ที่มีผู้สื่อข่าวเสียชีวิตมากถึง 67 ศพ และเมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิต 41 ศพ นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวยังพบว่า เมื่อนับถึงวันที่ 1 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา มีผู้สื่อข่าว นักเขียนและช่างภาพถูกจำคุกรวม 136 คน เพิ่มขึ้น 11 คน จากปี 2551
จีนยังคงเป็นประเทศที่คุมขังผู้สื่อข่าวมากที่สุดในปีที่ผ่านมา โดยมีการคุมขังผู้สื่อข่าวถึง 24 คน รองลงมาได้แก่ อิหร่าน คิวบา เอริเทรีย และพม่า ด้านผู้สื่อข่าวชาวแคนาดาเชื้อสายอิหร่านที่เคยถูกคุมขังในอิหร่านเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว และได้รับการปล่อยตัวใน 4 เดือนถัดมาเปิดเผยว่า มีนักข่าว นักเขียนและนักเขียนบล็อกในอินเทอร์เน็ตมากกว่า 100 คน ถูกจับกุมในอิหร่าน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว และในจำนวนดังกล่าวกว่า 65 คน ยังคงถูกควบคุมตัวจนถึงขณะนี้
ซีพีเจเปิดเผยว่า การฆาตกรรมเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 51 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของทั้งหมดถูกฆาตกรรม.