สปสช. ยกย่องโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้นแบบของการพัฒนาระบบการส่งต่อและดูแลผู

สปสช. ยกย่องโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้นแบบของการพัฒนาระบบการส่งต่อและดูแลผู

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยกย่องโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้นแบบของการพัฒนาระบบการส่งต่อและดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้เป็นจำนวนมาก นายแพทย์มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้ติดตั้งระบบติดตามสัญญาณชีพและจัดการฐานข้อมูลเพื่อสื่อสารแบบ real-time ระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ของโรงพยาบาลฯ กับรถปฏิบัติการฉุกเฉินของโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ ที่เป็นเครือข่ายของโรงพยาบาล เป็นการขยายบริการจากภายในโรงพยาบาลไปสู่รถปฏิบัติการฉุกเฉินซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปหลายสิบกิโลเมตร ทำให้รถปฏิบัติการฉุกเฉินเป็นเหมือนเตียงของห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอซียูขนาดย่อม ที่มีอุปกรณ์ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สื่อสารสองทางกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา ซึ่งระบบนี้สามารถลดเวลาการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเมื่อถึงสถานพยาบาลได้ถึงร้อยละ 80 ทำให้มีการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการช่วยหายใจ การแก้ไขภาวะความดันโลหิตต่ำหรือหัวใจเต้นผิดปกติ ลดอัตราการตายของผู้ป่วยอุบัติเหตุอาการหนักจากร้อยละ 33.43 ในปี 2552 มาเป็นร้อยละ 23.53 ในต้นปี 2553 ด้านนายแพทย์วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการส่งต่อในระบบบริการสาธารณสุขเป็นปัญหาใหญ่มานานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. จึงร่วมกันหาทางแก้ปัญหา โดยในส่วนของ สปสช. ได้จัดสรรงบประมาณ 1 ล้านบาท ให้กับทุกเขตตรวจราชการ เพื่อพัฒนาระบบการส่งต่อและศูนย์สำรองเตียง ซึ่งบางพื้นที่ประสบความสำเร็จจนสามารถเป็นพื้นที่นำร่องให้กับพื้นที่อื่นๆ ได้ เช่น โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ก็มีการพัฒนาระบบการส่งต่อและดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นอย่างมาก จนได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook