ชูนโยบายโฉนดที่ดิน แก้ไขปัญหาที่ทำกิน
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาการประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับพื้นที่ชาวบ้านที่ประชุมเห็นว่าในกรณีที่ชาวบ้านร้องว่าเข้าไปอยู่ก่อนนั้นให้มีการทุเลาการดำเนินการไปก่อนเพื่อจะได้ตรวจสอบสิทธิ์ที่ถูกต้องก่อน หากกรณีใดที่เห็นว่าจะชาวบ้านใช้เป็นที่ทำกินก็ขอให้แก้ไขปัญหาด้วยรูปแบบโฉนดชุมชน ส่วนกรณีที่มีการบุกรุกใหม่นั้นต้องเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด ส่วนปัญหาคดีความการฟ้องร้องระหว่างเจ้าน้าที่และชาวบ้านในคดีเพ่งที่มีการเรียกเงินจำนวนมากนั้น ที่ประชุมมีมติให้ใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยกรณีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2 ล้านบาทนั้นเป็นเรื่องที่อัยการและส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินการได้ แต่ถ้าเกินจำนวน 2 ล้านบาทเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังและกระทรวงทรัพย์ฯจะเป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม นายกฯยังได้ย้ำในที่ประชุมด้วยว่า ให้แต่ละกระทรวงทำเข้าใจกับส่วนราชการระดับจังหวัดหรือระดับพื้นที่เกี่ยวกับแนวนโยบายด้วยเพื่อให้มีการปฎิบัติงานในแนวทางกัน ส่วนการตั้งกองทุนธนาคารที่ดินนั้น ทางนายกรัฐมนตรีเห็นว่าจะนำไปพิจารณารวมกับข้อเสนอของกระทรวงการคลังซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน.