พิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ตะลึง ลูกศิษย์ของขึ้นพุ่งใส่รูปปั้น เพจวัดอธิบายอาการ เกิดจากเหตุนี้

พิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ตะลึง ลูกศิษย์ของขึ้นพุ่งใส่รูปปั้น เพจวัดอธิบายอาการ เกิดจากเหตุนี้

พิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ตะลึง ลูกศิษย์ของขึ้นพุ่งใส่รูปปั้น เพจวัดอธิบายอาการ เกิดจากเหตุนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ตะลึง ลูกศิษย์ของขึ้นพุ่งใส่รูปปั้น เพจวัดอธิบายอาการ เกิดจากเหตุนี้ 

(4 มี.ค.66) ที่วัดบางพระ จ.นครปฐม ได้มีการจัดพิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ประจำปี 2566 เกจิอาจารย์ดังแห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี เจ้าตำรับรอยสักเสือเผ่น โดยมีศิษยานุศิษย์และผู้ที่ศรัทธาจากหลายพื้นที่ เดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่น

โดยระหว่างพิธีไหว้ครู มีผู้ร่วมพิธีหลายรายเกิดอาการแปลก ๆ ซึ่งเรียกว่า "ของขึ้น" บางรายวิ่งกระโจนเข้าหารูปปั้นหลวงพ่อเปิ่น บางรายมีท่าทางคล้ายเสือ ยืนชูแขนคำรามแล้ววิ่งเข้าใส่รูปปั้น บางรายมีท่าทางคล้ายคนแก่ เดินย่อง ๆ 

ทางเพจเฟซบุ๊ก วัดบางพระ จ.นครปฐม (หลวงพ่อเปิ่น) ได้โพสต์ อธิบาย "อาการของขึ้น" อิงจากฐานความรู้ทางพระพุทธศาสนา ระบุว่า ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค “ สมาธิ “ หมายเอาถึง ภาวะที่จิตมีอารมณ์ตั้งมั่นในอารมณ์เดียวของฝ่ายกุศล ดังนี้ชื่อว่า "สมาธิ"

ระดับของสมาธิ สามารถแยกออกไปได้ตามความละเอียดปราณีตของจิต ซึ่งเกณฑ์ในการใช้แบ่งระดับสมาธินั้นมีได้หลายเกณฑ์ เช่น แบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปมาสมาธิ , แบ่งเป็น ๒ ระดับโดยดูจากผลของสมาธิคือฌาน มีรูปฌานกับอรูปฌาน ฯลฯ

ฌาน คือ ความเพ่ง , สมาบัติ คือ การเข้าถึงฌาน

ดังนั้น ทั้งฌาน และสมาบัติจึงไม่ใช่ตัวสมาธิโดยตรง แต่เป็นผลที่เกิดจากสมาธิในระดับละเอียดปราณีตขึ้นไปตามลำดับ

ยกตัวอย่างระดับความละเอียดของสมาธิที่ทำให้เกิดรูปฌาน ๔ คือ

๑ ) ปฐมฌาน มีองค์ ๕ ได้แก่ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์
๒ ) ทุติยฌาน มีองค์ ๓ ได้แก่ ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์
๓ ) ตติยฌาน มีองค์ ๒ ได้แก่ สุข เอกัคคตารมณ์
๔ ) จตุตฌาน มีองค์ ๒ ได้แก่ อุเบกขา เอกัคคตารมณ์

แล้วอาการ " ของขึ้น " คืออะไร ?

จากกรณีที่ปรากฏขึ้นในงานไหว้ครูนี้ อาการของขึ้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นผลของการที่จิตตั้งมั่นศรัทธาในรอยสัก และครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ดังที่แสดงออกมาในขณะที่จิตเกิดอารมณ์ " ปีติ " หรือความอิ่มเอิบใจ ซึ่ง " ปีติ " นั้น สามารถจำแนกออกได้ ๕ ประการ ดังนี้คือ

๑ ) ขุททกาปีติ คือ ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล
๒ ) ขณิกาปีติ คือ ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบๆ เป็นขณะๆ ดุจฟ้าแลบ
๓ ) โอกกันติกาปีติ คือ ปีติเป็นระลอก หรือปีติเป็นพักๆ ทำให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกายดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง
๔ ) อุพเพคาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ คือ ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรง ให้รู้สึกใจฟู แสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ
๕ ) ผรณาปีติ คือ ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านเอิบอาบไปทั่วสรรพางค์

( ขุททกาปีติและขณิกาปีติสามารถเข้าถึงได้ด้วยศรัทธา ,
โอกกันติกาปีตินั้นถ้ามีมากย่อมทำอุปจารสมาธิให้เกิดขึ้น ,
อุพเพคาปีติที่ยึดติดกับดวงกสิณ ทำให้ทั้งกุศล และอกุศลเกิดขึ้น ,
ผรณาปีติบุคคลทำให้เกิดขึ้นในสภาวะแห่ง อัปปนาสมาธิ )

ในคัมภีร์วิมุตติมรรค ได้จำแนกเหตุแห่งการเกิดปีติไว้ ๖ ประการ คือ

๑ ) ปีติเกิดจากราคะ คือเกิดจากความอิ่มใจ เพราะความชอบ หลงใหล และความอิ่มใจที่ประกอบด้วยกิเลส
๒ ) ปีติเกิดจากศรัทธา คือเกิดจากความอิ่มใจของบุคคลผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้า
๓ ) ปีติเกิดจากความไม่ดื้อด้าน คือเกิดจากความอิ่มใจอย่างยิ่งของคนดี มีใจบริสุทธิ์
๔ ) ปีติเกิดจากวิเวก คือเกิดจากความอิ่มใจของผู้เข้าปฐมฌาน
๕ ) ปีติเกิดจากสมาธิ คือเกิดจากความอิ่มใจของผู้เข้าทุติยฌาน
๖ ) ปีติเกิดจากโพชฌงค์ คือเกิดจากความอิ่มใจที่เกิดจากการดำเนินตามโลกุตตรมรรค ในทุติยฌาน

โดยสรุป - อาการของขึ้นตามที่ปรากฏนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสมาธิ ( ความตั้งมั่นแห่งจิต ) อันเกิดจากความเชื่อมั่น ทำให้อารมณ์ของจิตเข้าสู่ " ปีติ " นั่นเอง

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย อันเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุดของเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย.

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ พิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ตะลึง ลูกศิษย์ของขึ้นพุ่งใส่รูปปั้น เพจวัดอธิบายอาการ เกิดจากเหตุนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล